สวัสดี ทุกคนนะครับ นี่ก็กำลังจะเข้าหน้าร้อนแล้ว เหมาะกับการไปทะเลมากๆ ช่วงนี้หลีเป๊ะก็มาแรง เห็นหลายคนไปมาแล้ว ช่างน่าไปเที่ยวจริงๆ ผมก็พึ่งไปมาครับ 3 วัน 2 คืน เมื่อวันที่ 13-15 มี.ค. 2560 ที่ผ่านมา วันนี้ก็เลยจะเอาแผนเที่ยว มาแจก และบอกวิธีการเดินทาง ที่อ่านแล้วน่าจะเที่ยวตามกันได้ไม่ยากครับ และจากที่ไปมาแล้ว ต้องบอกว่าหลีเป๊ะ สวยมากๆ จริงๆ ครับ น้ำใส ทะเลสวย ปะการังสวย ปลาก็เยอะครับ ประทับใจมาก
สำหรับการจะไปเที่ยวหลีเป๊ะนั้น ต้องบินไปลงที่สนามบินหาดใหญ่ นะครับ จากนั้นก็ค่อยต่อรถไปท่าเรืออีกที เวลาไฟล์ทขาไปควรเลือกบินไปถึงสนามบินหาดใหญ่ไม่เกิน 9 โมงเช้า ขากลับๆ ไฟล์ทช่วงเวลา 19.00 น. กำลังดีครับ สำหรับทริป 3 วัน 2 คืน
หมายเหตุ
1.สรุปค่าใช้จ่ายอยู่ด้านล่าง
2.เบอร์ติดต่อสำหรับ รถตู้ไปกลับสนามบิน เรือข้ามเกาะ เรือออกไปดำน้ำ ผมจะให้เบอร์ไว้ที่ด้านล่างนะครับ (เป็นเจ้าที่ผมใช้บริการในการเดินทางไปรอบนี้)
แผนเที่ยว วันแรก
- 5:00 เช็คอินดอนเมือง
- 7:00 บินจากดอนเมือง สู่ สนามบินหาดใหญ่
- 8:50 ถึงสนามบินหาดใหญ่ เช่ารถหรือขึ้นรถพื้นถิ่น เพื่อไป ท่าเรือปากบารา จ.สตูล
- 10:30 ถึงท่าเรือปากบารา จ.สตูล แวะทานข้าว แถวท่าเรือ
- 11:20 ลงเรือไปเกาะ หลีเป๊ะ โดยเรือจะพาแวะถ่ายรูปที่ เกาะตะลุเตา และเกาะไข่
- 16:00 เข้าที่พัก
- 17:30 ดูพระอาทิตย์ตกที่หาดพัทยา(Sunset)
- 19:00 ข้าวเย็นถนนคนเดิน Koh Lipe Walking Street
หมายเหตุ
1.ไม่ว่าจะบินมาจากที่สนามบินไหน ควรเลือกไฟล์ทที่ถึงสนามบินหาดใหญ่ไม่เกิน 9โมงเช้าครับ เพราะต้องนั่งรถจากหาดใหญ่ไปที่ท่าเรือปากบารา จ.สตูล อีกประมาณ 1.30 – 2 ชั่วโมง
2.เรือจากท่าเรือปากบารา ไปเกาะหลีเป๊ะ มีรอบ 11.30 น. และรอบ 13.30 น. ถ้าไปไม่ทันรอบ 11.30 น. ก็ต้องรอไปรอบ 13.30 น. เลย
เริ่มการเดินทางวันแรก
ขอเริ่มต้นเมื่อบินมาถึงสนามบินหาดใหญ่เลยนะครับ
พอมาถึงสนามบินหาดใหญ่ เราต้องนั่งรถจากหาดใหญ่ไปที่ท่าเรือปากบารา จ.สตูล อีกประมาณ 1.30 – 2 ชั่วโมง เพื่อไปขึ้นเรือข้ามไปที่เกาะหลีเป๊ะ สำหรับทริปนี้เราไปกัน 8 คนครับ ก็เช่ารถตู้ส่วนตัวให้ไปส่งเลยครับ สำหรับเรทราคารถตู้ จะอยู่ที่เที่ยวละ 2500 บาท / เที่ยวนะครับ นั่งได้ 10 คน อันนี้เรททั่วๆ ไป
ส่วนใครที่จะเดินทางเองไม่เหมารถละ เดินทางยังไง?
1.พอช่วงที่จะเดินออกมาจากอาคารสนามบิน จะมีพวกบริษัททัวร์วางโต๊ะขายตั๋วรถตู้อยู่ครับ ไปส่งที่ท่าเรือปากบารา เลย พอคนเต็มรถก็ออกเลยครับ
2.เดินทางโดยรถขนส่งสาธารณะ โดยเดินออกไปที่หน้าสนามบิน แล้วนั่งรถสองแถวที่เขียนว่า บขส หาดใหญ่ – สนามบิน เพื่อไปลง บขส จากนั้นก็ไปนั่งรถตู้ สาย หาดใหญ่ – ปากบารา ไปลง ท่าเรือปากบารา จ.สตูลได้เลยครับ ค่าเดินทางวิธีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 220 บาท นะครับ แต่ข้อเสียคือ คุมเวลาไม่ได้ครับ ต้องขึ้นตามรอบที่รถตู้มี ถ้าเต็มก็ขึ้นรอบต่อไป ซึ่งอาจจะทำให้ไปไม่ทันเวลาลงเรือได้ ถามคนท้องถิ่น เค้าก็แนะนำว่าขึ้นรถของพวกทัวร์ จากสนามบินมาเลยจะดีกว่า ราคาต่างกันไม่เท่าไร สะดวกกว่าด้วย
ก็ลองพิจารณากันดูนะครับ ไปหลายคนก็เหมารถกันเอาเลยก็ได้
มาถึง ท่าเรือปากบารา จ.สตูล ยังพอมีเวลาให้แวะทานข้าว และหาซื้อของก่อนลงเรือ แนะนำว่า ใครจะซื้อพวกขนม ของกินเล่นอะไรก็ซื้อจากที่นี่เลยนะครับ เพราะบนเกาะจะแพงกว่า ของที่เซเว่นบนเกาะ ก็จะแพงว่าเซเว่น ที่ท่าเรือนี้ครับ ส่วนพวกเหล้าเบียร์ ไปซื้อบนเกาะเอาก็ได้ครับ ราคาไม่ต่างกันเท่าไร
มาถึงภาคใต้ทั้งทีต้องจัด ข้าวหมกไก่ เลยครับ อร่อยเลยทีเดียว เวลาเข้าร้านอาหารที่นี่จะไม่มีเมนูที่เกี่ยวกับหมูนะ มีเป็น เนื้อ ไก่ แล้วก็ทะเลเลย ใครจะไปสั่งกระเพราะหมูสับ อะไรแบบนี้ไม่มีนะครับ
อ้อ ลืมบอกไปว่า พอมาถึงท่าเรือแล้วให้ไปติดต่อซื้อตั๋วเรือไปเกาะหลีเป๊ะก่อนให้เรียบร้อย แถวท่าเรือมีหลายบริษัทหลายเจ้ามากครับ ที่ขาย เดินๆ ดูกันได้ หรือเป็นไปได้ก็ดูและติดต่อไว้ให้เรียบร้อยตั้งแต่ก่อนมา จะได้ไม่เสียเวลา
ไปครับ ได้เวลาลงเรือแล้ว เดินไปที่ท่าเรือกันดีกว่า
สำหรับเรือที่จะไปเกาะหลีเป๊ะ เรือจะพาแวะถ่ายรูปที่ เกาะตะลุเตา และเกาะไข่ ก่อน แต่ไม่ได้แวะนานมากครับ พอแค่ให้ถ่ายรูปเท่านั้นเอง
รูปด้านบนนี้จะเป็นป้าย แสดงหมู่เกาะที่อยู่บริเวณนี้ ทริปนี้เราก็จะได้ไปเที่ยวกันหลายเกาะเลยครับ
มาถึงแล้วครับเกาะตะรุเตา เดิมเป็นเกาะที่ใช้คุมขังนักโทษ จะมีค่าเข้าอุทยาน 40 บาทนะครับ
เกาะนี้ก็สวยและบรรยากาศดีครับ ดูเงียบสงบดี เห็นว่ามีที่พักที่สามารถมาพักได้ด้วยนะครับ เผื่อใครอยากจะมาพัก
สำหรับใครมาที่เกาะตะรุเตา อย่าลืมมาไหว้ศาลเจ้าพ่อตะรุเตา นะครับ ล่ำลือกันว่าท่านศักดิ์สิทธิ์ มาก ลงเรือมาแนะนำให้เดินมาไหว้ก่อนออกไปถ่ายรูปครับ เพราะเรือให้เวลาค่อนข้างน้อยในการแวะ
มาแวะจุดต่อไป นั่นก็คือ เกาะไข่ สวยมากกกก น้ำนี่ใสแจ๋วเลย
จากนั้นก็ได้แวลาไปเกาะหลีเป๊ะ จุดหมายของเรากันแล้ว
มาถึงเกาะหลีเป๊ะเรียบร้อย เราพักกันที่พักชื่อ วาริน 2 แต่ตอนเช็คอินและจ่ายเงินก็ไปเช็คอินที่ วาริน 1 ตรงท่าเรือ ตามรูปด้านบนครับ วาริน 1 จะอยู่หาดพัทยา หรือหาดที่ชมพระอาทิตย์ตก ส่วนวาริน 2 ที่พวกผมพักจะอยู่ฝั่งหาดชาวเล หรือหาดที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นครับ
รูปบนนี้คือที่พักฝั่งวาริน 2 ครับ เป็นกระท่อม นอนห้องละ 2 คน คืนละ 800 บาท/ 1 กระท่อมครับ ฝั่งนี้จะเป็นห้องพัดลมนะครับ ได้หลังที่ไม่ติดหาดราคาก็เลยถูกลงมาหน่อย ใครจะจองติดหาดต้องจองล่วงหน้านานๆ หน่อยนะ เพราะเต็มเร็วมาก แต่ก็เดินไปหาดนิดเดียวครับใกล้ๆ ไม่ถึง50 เมตร
สำหรับที่พักวาริน 2 เหมาะกับคนชอบประหยัดนะครับ แต่ถ้าใครชอบห้องดีๆ หน่อย สะดวกสบาย ไม่แนะนำที่นี่ครับ
ออกมาเดินดูหาดชาวเล หรือหาด Sunrise (หาดฝั่งชมพระอาทิตย์ขึ้น) ยามเย็นกันซักหน่อยนะครับ ช่วงเย็นน้ำลง มองไปนี่เห็นกลุ่มปะการังเลย น้ำใสมากๆ หาดฝั่งนี้จะสงบกว่า หาดฝั่งพัทยา ครับ เพราะฝั่งนั้นเป็นฝั่งท่าเรือด้วย คนก็เลยจะพลุกพล่าน
เข้าที่พักแล้วก็เปลี่ยนชุดมาเล่นน้ำ ดูปะการัง กันที่หน้าหาดครับ ช่วงเย็นน้ำลงมาก สามารถเดินดูปะการังได้เลย แต่ต้องเดินดูแบบระวังนะครับ เดี๋ยวจะเผลอไปทำให้ปะการังเสียหายได้
ดูในวีดีโอ จะเห็นว่าน้ำใสมาก สามารถดูปลาการ์ตูนได้ที่หาดเลย ครับ
แสงพระอาทิตย์กำลงจะตกช่วงเย็น สวยงามมาก บรรยากาศดีสุดๆ
ช่วงค่ำ เดิน ถนนคนเดิน อยู่หลังที่พักพวกเรานี่เอง ถนนคนเดินจะเชื่อมระหว่างหาด ชาวเลกับหาดพัทยานะครับ เดินถึงกันได้ไม่ไกล หาข้าวกินดีกว่า ในถนนคนเดินมีร้านอาหารเยอะมาก ร้าน นมขนมปังก็เยอะครับ กินของคาวเสร็จก็ของหวานต่อได้เลย
แนะนำว่าเดินสำรวจราคากันก่อนนะครับ บางร้านก็รู้สึกว่าอัพราคาขึ้นไปมาก เช่นกล้วยปั่น บางร้าน 80 บาท บางร้าน 40 บาท ยังไงก็เดินสำรวจดูก่อน ครับ
จบวันแรกคร๊าบ
วันที่ 2
- 5:45 พระอาทิตย์ขึ้น
- 8:00 อาหารเช้า
- 9:00 ดำน้ำ ที่หมู่เกาะอาดัง – ราวี
- 12:00 พักทานข้าว ที่ศูนย์รักษาการชายฝั่ง หมู่เกาะอาดัง – ราวี
- 13:00 ดำน้ำ ร่องน้ำจาบังปะการังเจ็ดสี เกาะหินงาม หลังเกาะหินงาม
- 15:00 เข้าที่พัก
- 18:00 ถนนคนเดิน
สำหรับการเดินทางวันที่ 2 นี้ แนะนำให้ซื้อเป็น Day trip เลยครับ สำหรับออกไปดำน้ำ ก็จะมีทั้งดำน้ำโซนเกาะใน และโซนเกาะนอก ที่นิยมกันเลยก็จะเป็นโซนเกาะใน สำหรับใครที่อาจจะมา 4 วัน 3 คืน อีกวันก็ไปดำโซนเกาะนอกก็ได้ครับ
สำหรับราคา ดำน้ำ Day trip โซนเกาะใน เท่าที่เดินๆ ดูจะอยู่ช่วง 450 – 800 บาท โดยประมาณครับ
การเดินทางวันที่ 2
ตื่นเช้าวันที่ 2 ต้องเรียกได้ว่าแหกขี้ตาตื่น มานอนต่อที่ริมชายหาดกันน่าจะดีกว่าครับ 555 ที่พักเราอยู่ฝั่งหาดพระอาทิตย์ขึ้นพอดี ลากเก้าอี้ออกมานั่งที่ชายหาดได้เลย ตอนเช้าแสงดีมากกก สวย อากาศดี ได้บรรยากาศสุดๆ น้ำทะเลลดมองเห็นปะการังเลยครับ
ชมพระอาทิตย์ขึ้นกันอย่างหนำใจแล้ว ออกไปเดินหาข้าวเช้ามากินครับ อีกหนึ่งข้อดีของการมาพักฝั่งหาดพระอาทิตย์ขึ้นคือ ใกล้ตลาดเช้าของชาวบ้านครับ เดินออกไปหลังที่พักได้เลย ถนนหน้า ถนนคนเดินฝั่งซ้าย เดินยาวไปได้เลยครับ มีทั้งร้านขายของสด ร้านขายของส่ง อยู่ฝั่งนี้หมดเลยครับ ตอนเช้าก็จะมีพ่อค้า แม่ค้าวางกับข้าวขายเยอะครับ
พวกเราต้องซื้อข้าวเผื่อมื้อเที่ยงด้วย เพราะวันนี้เราเหมาเรือหางยาวออกไปดำน้ำส่วนตัวกันเลยครับ ต้องเตรียมอาหารไปเอง อยากกินอะไรก็จัดไปครับ ข้าวเหนียวไก่ย่างละ ง่ายๆ ดี
เรือมารับเราออกไปดำน้ำตอนเวลา 9.30 น. ครับ เรือนีโม 2 ลำที่จอดอยู่นั่นเอง ปกติแล้วเหมาเรือดำน้ำโซนเกาะในจะอยู่ที่ 1800 บาท/ วันครับ ถ้าเอาหน้ากาก สน็อกเกิ้ลด้วย + 200 บาท ไปหลายคนก็หารกันไม่แพงครับ รู้สึกเรือ 1 ลำจะนั่งได้ประมาณ 12 คนครับ
รูปล่างนี้ มองหิน 2 ก้อนที่อยู่ข้างหน้านะครับ ตอนมองไกลๆ คิดว่าเรือเค้าต้องพาอ้อมหินไปอีกฝั่งแน่ๆ แต่ที่ไหนได้ ไม่มีเลี้ยวอ้อมเลย พาผ่ากลางระหว่างหินไปเลย โอ้ววว แอบเสียว แต่คนขับเค้าก็ชำนาญมาก 555
ช่วงแรกนี้เรือพาเราไปดำน้ำที่หมู่เกาะ อาดัง – ราวี (คนเรือจอดเรือให้ลงตรงไหนก็ลงครับ 555) แนะนำว่าใครจะมาให้ซื้อชุดดำน้ำขายาว แขนยาวมาเลยนะครับนอกจากจะช่วยกันรังสียูวีแล้ว ยังช่วยป้องกันแตนทะเลด้วย คือมองไม่เห็นตัวมันหรอกนะครับ เวลาว่ายน้ำอยู่ มันมาโดนตัวเราจะแสบเป็นผื่น บางคนก็บอกว่าเป็นละอองปะการังที่ปล่อยออกมา เอาเป็นว่า ไม่ว่าจะเป็นอะไร มันโดนตัวเราแล้วแสบ
ปลาช่วงนี้ว่ายไม่กลัวคนเลย
จากนั้นเรือก็พาเรามาพักทานข้าว ที่ศูนย์รักษาการชายฝั่ง หมู่เกาะอาดัง – ราวี ที่นี่มีอาหารตามสั่งขายนะครับ ส้มตำก็มีครกละ 70 80 บาท ราคาก็ไม่ถือว่าอัพมาก ก็ได้อยู่
มีเก้าอี้ให้นั่งพัก มีหาดให้เล่นน้ำ
ได้เวลาออกไปดำน้ำต่อคร๊าบ หนาย เรือนีโม่ 2 เราอยู่หนาย
สถานีต่อไป เรามากันที่เกาะหินงาม ที่นี่มีป้ายขึ้นว่าห้ามนำหินมาเรียงซ้อนกันแล้วนะครับ เพราะหินตกลงมาเกิดความเสียหาย เดี๋ยวนี้ก็เลยห้ามนะครับ
มาเกาะหินงาม อย่าลืม เอาหน้ามุดน้ำลงไปดูปลานะครับ ปลาบริเวณนี้ เยอะมาก พวกเราดูเหมือนจะไม่อยากขึ้น คนขับเรือก็เลยบอกไปดูข้างหน้าดีกว่าสวยกว่านี้ เอ้อ ไปก็ไป ขึ้นเรือ 555
จุดต่อมา เราถูกนำมาปล่อย ที่หลังเกาะหินงาม
จุดนี้ต้องบอกเลยว่าปะการังสวยและเยอะมากก คนขับเรือปล่อยเราลอยและดำน้ำไปเลย เอาจนเหนื่อยแล้วค่อยๆ ว่ายกลับมาเรือเองทีละคนสองคนครับ 555
จุดสุดท้ายของวันนี้ ไปร่องน้ำจาบัง ดูปะการังเจ็ดสี แต่ แต่ แต่.. พอไปถึงแล้ววันนี้ดันกระแสน้ำแรง เพื่อความปลอดภัย พวกเราไม่ลงดีกว่า กลับครับงั้น วันนี้เต็มอิ่มกับการดำน้ำดูปะการังมากๆ ชอบทุกจุดที่ไปเลย มาช่วงนี้น้ำใสมาก
กลับมาเล่นน้ำดูปะการังกันที่หาดหน้าที่พักเราต่อ ดูน้ำซิ ใสมากกก
ปลาการ์ตูนเยอะมาก ตรงไหนที่มีดอกไม้ทะเล เดินเข้าไปดูได้เลยครับ มันจะมีปลาการ์ตูนซ่อนตัวอยู่ เห็นกันได้ง่ายๆ ที่หาดกันเลยทีเดียว

ต่อด้วยการไปรอชมพระอาทิตย์ตกที่หาดพัทยา แสงยามเย็นสวยมากๆ
มื้อเย็นคืนสุดท้ายบนเกาะ ขอจัดเต็ม จำชื่อร้านไม่ได้ละครับ เป็นร้านที่คนเยอะๆ ในถนนคนเดิน เรามากินร้านนี้กัน ทั้ง 2 คืนเลย ฮ่าๆ จริงๆ คืนนี้ตอนแรกว่าจะพากันเดินไปกินบุฟเฟ่ต์ ซีฟู้ด หัวละ 499 ละ แต่กุ้งดันตัวเล็กไปนิด และราคาไม่รวมเครื่องดื่ม เลยเปลี่ยนไปกินร้านเดิมดีกว่า สั่งกันเต็มที่ หมดกันคนละ 400 บาท ก็โอเคนะ 555
ของคาวเสร็จ ของหวานต่อ แวะกินโรตี ที่ร้าน Yohoo ก่อนกลับที่พัก ร้านนี้ขายถูกและอร่อย มาแวะกินทั้ง 2 คืนเลยเหมือนกันครับ
จบวันที่ 2
วันที่ 3
- 8:00 อาหารเช้า
- 10:00 เช็คเอ้าท์ที่พัก และไปรอขึ้นเรือ
- 11.30 ขึ้นเรือออกจากเกาะหลีเป๊ะ ไปท่าเรือปากบารา
- 13:00 ถึงท่าเรือปากบารา แวะทานข้าวเที่ยง
- 14:00 เดินทางไปตลาดกิมหยง ในตัวเมืองหาดใหญ่
- 15:40 ช๊อปที่ตลาดกิมหยง
- 17:00 เดินทางถึงสนามบิน
- 19:20 บินจากหาดใหญ่
- 20:45 ถึงดอนเมือง -จบทริป-
การเดินทางวันสุดท้าย
วันนี้ตื่นมาก็แปดโมงกว่าแล้ว ไม่ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นเลยวันนี้ สงสัยเมื่อวานจะเหนื่อยจากการดำน้ำ อาบน้ำแต่งตัว เดินไปหาซื้อข้าวเช้าที่ตลาดเช้า เก็บของออกมารอรถของที่พัก มารับเราไปที่วาริน 1 เพื่อเช็คเอาท์
ระหว่างรอรถมารับ ออกมาถ่ายรูปเล่น ช่วยโปรโมทร้านเสื้อของเพื่อนซะหน่อย ร้านเสื้อ superhero แนวสตรีท แบบที่ผมใส่ในรูป มีหลายแบบครับ จากร้าน Chocowear ใครสนใจก็ไปดูได้ที่เพจของร้านเลยนะครับ คลิก
มารอขึ้นเรือที่หาดพัทยา รอบ 11.30 น. ตั๋วเรือนี้ก็จะซื้อแบบไปกลับกันไว้ตั้งแต่ขามากันอยู่แล้วนะครับ ขามาเค้าก็จะแจ้งเราเองว่าต้องไปขึ้นอะไรยังไงที่ไหน
ถ่ายรูปหาดพัทยา ก่อนกลับ มองลงไปในทะเลสังเกตเห็นว่า หาดนี้ปะการังก็เยอะเหมือนกันนะ แต่เสียดายไม่ได้มาดำน้ำฝั่งนี้เลย เดี๋ยวถ้ามารอบหน้าไม่พลาดแน่นอน
ขากลับเรือจะไม่ได้พาแวะที่ไหนนะครับ จะตรงยาวไปที่ท่าเรือปากบาราเลย มาถึงท่าเรือก็ประมาณบ่ายๆ หาข้าวกินก่อนจะนั่งรถตู้ตรงยาวไปที่หาดใหญ่ ร้านอาหารตามสั่ง ตามรูปด้านล่างนี้แวะกินกันได้นะครับ อร่อยดี อยู่ตรงป้ายท่าเรือปากบาราลย
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงจะอยากรู้แล้วละว่า ผมจองรถตู้ จองเรือข้ามไปเกาะหลีเป๊ะ เหมาเรือออกไปดำน้ำผ่านเจ้าไหน ตามป้ายรูปด้านบนเลยนะ ใช้บริการของ บ้านปัน ครับ แต่ออกตัวไว้ก่อนนะครับว่าไม่มีส่วนได้เสียใดๆ ทั้งสิ้น ยังไงใครสนใจก็โทรไปติดต่อสอบถามกันเองตามเบอร์ในรูป ไปครั้งนี้พนักงานดูแลบริการพวกผมดี โทรแจ้งเราตลอดว่ารถถึงไหนแล้ว คันไหนจะไปรับ พรุ่งนี้เรือออกกี่โมง อะไรยังไง ถือว่าประทับใจครับ
ปล. ถ้าใครโทรไปก็บอกเค้าแล้วกันนะครับว่าเห็นมาจากที่ไหน เผื่อโทรไปหลายๆ คนเค้าจะลดให้ครับ ฮ่าๆ
ไปเดินกันต่อที่ตลาดกิมหยง ที่หาดใหญ่ ซื้อของฝาก ก่อนไปสนามบิน ที่นี่ขนมเยอะมากๆ เลย พากันซื้อแล้วแพ็คกล่องโหลดกลับกันเลยทีเดียวของถูกครับ
อ้อ ลืมบอกไปว่ารถตู้ที่พวกผมจอง ขากลับมาลงที่ ตลาดกิมหยง แล้วกะว่าจะไปปสนามบินเอง แต่เปลี่ยนใจ เพราะของเยอะ เลยให้รถตู้รอพวกผมช๊อป แล้วให้ไปส่งที่สนามบิน เค้าคิดเพิ่มอีก 700 บาทนะครับ
ก่อนไปสนามบิน คนขับรถตู้ชวนแวะไปชิม ไก่ทอดเดชา ของขึ้นชื่อเมืองหาดใหญ่ โอเค ไปก็ไป จะได้ซื้อไปนั่งกินที่สนามบินก่อนขึ้นเครื่อง พอมาเปิดกินแล้ว เออ อร่อยดี สมกับที่คนขับรถตู้ชวนแวะชิม
มาถึงสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ เตรียมกลับ
จบทริปเที่ยวหลีเป๊ะ 3 วัน 2 คืนคร๊าบบ
สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่ายทริปหลีเป๊ะ 3 วัน 2 คืน (ราคาบางอย่างเป็นราคาเหมาและหารผู้ร่วมเดินทาง 8 คน)
- ค่าเดินทาง
-ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ 1,500฿ เฉพาะตั๋วไม่รวมบริการเสริม
-รถตู้ ไป-กลับ สนามนามบินหาดใหญ่-ท่าเรือปากบารา 450฿/คน (ขากลับถ้าแวะตลาดกิมหยงจ่ายเพิ่มอีก 100฿/คน)
-เรือสปีดโบ๊ท ไป-กลับ ท่าเรือปากบารา-หาดซันเซ็ตเกาะหลีเป๊ะ 800฿/คน (ขาไปแวะ เกาะไข่ เกาะตะลุเตา) (เรือเป็นเรือจอยมีผู้อื่นเดินทางด้วย)
-เรือหางยาวไปดำน้ำตื่นแบบระยะใกล้ เกาะยาง เกาะ เกาะรอกลอย เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะหินงาม หลังเกาะหินงาม ร่องน้ำจาบัง 200฿/คน (ไม่รวมสน็อกเกิ้ล แต่รอบนี้เข้าใจดีแถมให้) (ไม่รวมอาหารกลางวันและเครื่องดื่ม ต้องเตรียมไปเอง) (ไม่รวมทิปคนเรือ)
- ค่าที่พัก
-วารินทร์วิลเลจ หรือ วารินทร์ 2 หาดซันไลท์ คืนละ 800฿/ห้อง (1 ห้อง นอนได้ 2 คน) (ไม่รวมอาหารเช้า) (มีรถรับส่งฟรี หาดซันเซ็ต-หาดซันไลท์)
- ค่าอาหาร
Day 1 เที่ยง เย็น
Day 2 เช้า เที่ยง เย็น
Day 3 เช้า เที่ยง
รวม 7 มื้อ
ประมาณ 200฿/มื้อ/คน = 1,400฿
***ค่าอาหาร ส่วนใหญ่จะไปหนักที่มื้อเย็น มื้อเช้ามื้อเที่ยงกินปกติ แต่มื้อเย็นจัดเต็ม
สรุป 5,250฿/คน
ปล.1.ราคาจะถูกจะแพง ขึ้นอยู่กับการเลือกพัก การเลือกกิน เลือกเอาตามที่แต่ละท่านสะดวกนะครับ อ้อ อีกหนึ่งอย่างคือหาจองตั๋วเครื่องบินโปรโมชั่นถูกๆ เอาไว้ครับ
ปล.2.ราคาที่สรุปคือราคาที่เราจ่ายไป ราคาบางอย่างอาจจะถูกกว่าราคาปกติ เพราะให้พี่ที่หาดใหญ่เป็นคนติดต่อให้เลยได้ราคาพิเศษ ส่วนแต่ละอย่างเรทราคาปกติ เท่าไร ผมได้บอกไว้แล้วในรีวิวนะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ
สำหรับใครที่ชอบ ก็รบกวนช่วย กดไลท์ กดแชร์ โพส์ต หรือรีวิวนี้ให้ด้วยนะครับ