วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ ต้องบอกว่าสุดพลาดจริงๆ กับการเที่ยว Universal Studios Japan เพราะมันไม่ใช่สวนสนุกที่นึกอยากจะไปก็ไปเลย โดยที่ไม่เตรียมความพร้อมหรือหาข้อมูลให้ดีก่อนไป
เริ่มกันเลย
ระหว่างทริปลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่น 13 วัน 27 มีนา – 8 เมษา 2560 และวันที่ 30 มีนาคม เดินทางมาถึงโอซาก้าช่วงเย็นๆ วันที่ 31 มีนาคม 2560 มีเวลา 1 วันที่โอซาก้า ซึ่งเป็น 1 วันที่ไม่เต็มวันด้วย เพราะเวลา 19.16 น. ต้องนั่งชินคันเซ็นไปนาโกย่าต่อ และจริงๆ ทริปนี้ การไป USJ ไม่ได้อยู่ในแผนเลยเพราะทริปนี้เป็นทริปดูซากุระ แต่ด้วยปีนี้ซากุระค่อนข้างบานช้า จึงเปลี่ยนแผนไป USJ ในวันพรุ่งนี้
คืนนั้นก็เลยนั่งหาข้อมูลการเที่ยว Universal Studios Japan ที่หลายคนได้เคยรีวิวไว้ หลายรีวิวบอกเทคนิคว่าให้รีบไปก่อนสวนสนุกจะเปิด พอเปิดแล้วให้รีบวิ่งไปที่เครื่องเล่นเลย ซึ่งแน่นอน เครื่องเล่นที่ฮอตฮิตที่สุดในขณะนี้คือ Harry Potter นั่นเอง เห็นรูปคนวิ่งแย่งกันแล้ว ตอนนั้นนึกในใจว่า มันต้องขนาดนั้นเลยเหรอวะ นี่จะไปเที่ยวสวนสนุกนะ ทำไมต้องวิ่งแย่งชิงอะไรกันขนาดนั้นค่าเข้าก็ไม่ใช้ถูกๆ นะ ผมบอกกับตัวเองเลยตอนนั้น ผมจะยอมจ่ายเพิ่มเพื่อซื้อ Express pass จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิวเล่นเครื่องเล่น ด้วยความที่มีเวลาไม่มากด้วย และคืนนั้นก็ไม่ได้เข้าไปจองตั๋ว หรือหาซื้อตั๋วล่วงหน้าก่อน เพราะคิดว่าเดี๋ยวไปซื้อหน้างานเอาแล้วกัน
ความพลาดจุดที่ 1 คือ ไม่ซื้อตั๋วล่วงหน้าไปก่อน
คำแนะนำ คือ ควรหาซื้อตั๋วล่วงหน้าไปก่อน สามารถซื้อได้ทั้งจากเอเจนท์ที่ไทย ซื้อที่ตู้กดตั๋วในร้านสะดวกซื้อที่ญี่ปุ่น หรือซื้อผ่านเว็บ ลองดูรีวิวนี้นะครับ คลิก
ถึงวันจริง 31 มีนาคม 2560
วันนี้ออกจากที่พักประมาณ เกือบ 9.30 น. ด้วยความที่พักอยู่ไม่ไกลจาก USJ ก็เลยค่อนข้างชะล่าใจ
การเดินทาง มาที่นี่ก็คือนั่งรถไฟมาลงที่ สถานี Universal city
ความพลาดจุดที่ 2 คือ ไปสวนสนุก USJ เวลานี้ถือว่าไปสาย มากกกกก ก ไก่. ล้านตัว
คำแนะนำ คือ ไปให้ก่อนสวนสนุกเปิด โปรดจงเชื่อคนที่ไปมาแล้ว และหลายๆ รีวิวได้บอกไว้ 555 ตอนแรกผมออกแนวไม่เชื่อนะ คิดอย่างเดียวว่าอะไรมันจะขนาดนั้น
ออกมาจากสถานีรถไฟแล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆ จะผ่านร้านค้าต่างๆ ก่อนจะไปถึงจุดจำหน่ายบัตร ซึ่งก็จะมีร้าน Family Mart อยู่ตรงปากทาง ติดกับสถานีรถไฟ หลายคนก็จะกรูกันเข้าไปซื้อเสบียง อาหารกันอย่างเต็มที่ เอาไว้ไปกินด้านในสวนสนุก แน่นอนว่ามาร์ทนี้คนเยอะมาก ทำให้ค่อนข้างเสียเวลาในการซื้อ ตอนแรกผมเข้าใจว่ามีแค่มาร์ทเดียว แต่พอเดินมาอีกนิด มองหาที่นั่งกินข้าวที่ซื้อมา ก็มาเจอ Family Mart อีกที่ จะอยู่ใต้บันใดเลื่อน ซึ่งคนไม่ค่อยรู้ครับ เพราะอาจจะดูหลบมุมไปนิด
***ที่นี่ซื้อของกินจากข้างนอกเข้าไปในสวนสนุกได้ ดังนั้นซื้อพวกข้าวปั้น ขนมปัง อะไรที่พักกินง่ายๆ เข้าไปด้วย ระหว่างรอคิวเครื่องเล่นจะได้ไม่หิวนะครับ เพราะบางเครื่องเล่นรอนานมากจริงๆ
ความพลาดจุดที่ 3 คือ ไม่เตรียมเรื่องเสบียงอาหารการกิน และทานมื้อเช้ามาให้เรียบร้อยก่อนมา ทำให้ต้องเสียเวลามาต่อคิวซื้อของและนั่งกินมื้อเช้าก่อน
คำแนะนำ ซื้อเสบียงอาหารมาให้เรียบร้อยจากข้างนอก และทานมื้อเช้ามาให้เรียบร้อยก่อนมา จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาตรงนี้
กินข้าวเสร็จก็ไปกันต่อครับ เดินไปเจอประตูทางเข้าก่อนเลย ถ่ายรูปอัพเฟสซิครับ มาครั้งแรก 555
ผ่านประตู้นี้ไปก็จะเจอจุดจำหน่ายตั๋วแล้วก็ลูกโลก Universal Studios ผมก็เลยวิ่งไปถ่ายรูปกับ ลูกโลก Universal Studios ก่อนเลย โอ้ ตายแล้ว จะได้ซื้อตั๋วไหมนิ 555 จากนั้นก็ไปต่อแถวซื้อตั๋วครับสังเกตดูแถวก็ยาวๆ พอๆ กันหมดเลยตอนนั้น แต่คิดว่าแถวที่อยู่ซ้ายๆ สุดน่าจะคนไม่เยอะเท่าแถวฝั่งใกล้ลูกโลก ครับ เพราะคนถ่ายรูปจากลูกโลกเสร็จ ก็มาต่อแถวใกล้ๆ แถวนั้น และก็ได้เข้าไปซื้อตั๋ว 1 day pass ราคา 7600 เยน และที่งานเข้าคือ บัตร express pass หมด ตอนนั้นแบบ ห๊ะ มันมีหมดด้วยเหรอ ตอนนั้นรู้สึกว่าพลาดมากๆๆๆ งานเข้าซิครับ ยิ่งมีเวลาน้อยๆ อยู่ แถมไม่มี express pass ด้วย จะได้เล่น Harry Potter ไหมวันนี้ และระหว่างนั้น ฝนตกมาอีก โอ้ย อะไรกันวันนี้
ความพลาดจุดที่ 4 คือ ไม่รู้ว่าบัตร express pass มันมีจำนวนจำกัด ผลจากการหาข้อมูลไม่ละเอียด ถ้ารู้ว่ามันมีจำหน่ายหมดด้วย จะพยายามไปหาซื้อมาตั้งแต่เมื่อวาน
คำแนะนำ ให้ซื้อก่อนมาให้เรียบร้อย และแนะนำว่าให้ซื้อเลยครับ มาทั้งทีอย่าไปเสียดาย จะได้เล่นได้หลายๆ เครื่องเล่น เพราะถ้าไม่ซื้อไปต่อคิวเครื่องเล่นแต่ละอย่างนี่นานเป็น ชั่วโมงหรือหลายชั่วโมงกันเลยทีเดียว
ความพลาดจุดที่ 5 คือ มัวแต่ไปเสียเวลาถ่ายรูปกับของล่อต่าล่อใจระหว่างทาง ทำให้เสียเวลา และช้าไปอีก
คำแนะนำ ลงรถไฟมา ให้รีบวิ่งมาตรงจุดจำหน่ายตั๋วเลย มาให้เร็วก่อนคนอื่น ได้ตั๋วแล้วค่อยไปถ่ายรูป
ความพลาดจุดที่ 6 คือ ดันมาวันที่อากาศไม่ดี ช่วง 11 โมงไป คือฝนตกตลอด (แต่อันนี้ผมเลือกไม่ได้เพราะมีเวลามาแค่วันนี้)
คำแนะนำ ถ้าใครพอสลับวันได้ ก็ให้เลือกมาวันที่อากาศดีๆ ครับ เพราะการเที่ยวสวนสนุก ถ้าฝนตกคือเครื่องเล่นกลางแจ้งนี่ เล่นไม่ได้เลย ไม่คุ้มเข้าไปอีก
ได้เข้ามาในสวนสนุกช่วง 11 โมงกว่าๆ พร้อมฝนตก กางแผนที่และตรงไปที่ โซน Harry Potter เลย ไปถึงก็เห็นเค้าต่อแถวเข้าและยื่นบัตรอะไรบางอย่าง ก็เลย ถาม จนท ตรงนั้นว่า ตรงนี้โซน Harry Potter ใช่ไหม จนทบอกใช่ และถามมาว่าคุณจองตั๋วเข้าไว้รึยัง หรือคุณมีบัตร express pass ไหม สรุป ไม่มีทั้ง 2 ก็เลยต้องไปหาที่กดจองตั๋วก่อน เปิดแผนที่ให้ จนท ดู และจิ้มให้หน่อยอยู่ตรงไหน
ความพลาดจุดที่ 7 คือ ไม่รู้ว่าต้องไปกดจองคิว สำหรับเข้าไปในโซน Harry Potter อันนี้พลาดมากๆ อีกจุด
คำแนะนำ เข้ามาในสวนสนุกแล้วให้รีบไปกดจองคิวไว้เลย เพราะยิ่งไปช้าก็จะได้คิวรอบที่ช้าเข้าไปอีก
สรุปผมได้เข้าช่วง 14.30 – 15.30 น. ซึ่งเข้าได้เฉพาะรอบที่ตัวเองจองไว้เท่านั้นนะครับ และ 1 บัตร จองคิวได้ 1 ครั้ง/วันเท่านั้น ระหว่างนั้นก็เลยมองหาว่าจะไปเล่นเครื่องเล่นอะไรดี แน่นอนครับ อีกเครื่องเล่นที่น่าเล่น พอๆ กับ Harry Potter ก็คือ Spider-Man แต่ Harry Potter ใหม่กว่า
มาต่อคิวเล่น Spider-Man ประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ เลยครับ จนกลัวว่าตอนแรกจะไปทันเข้า Harry Potter รึป่าว
คำแนะนำ ก่อนจะเข้าไปต่อคิวเครื่องเล่นอะไร ให้เตรียมของกินมาให้เรียบร้อย และเข้าห้องน้ำมาให้เรียบร้อยด้วย
และในที่สุดก็ได้เล่น ใช้เวลาไม่นานครับ ประมาณ 6 นาทีเองมั้งครับ แต่สนุกมากกกก จะเป็นลักษณะนั่งรถเข้าไปในฉากของเรื่อง Spider-Man จะ คล้ายๆ transformer ที่ USS เลย แค่เป็นหนังคนละเรื่อง แต่ Spider-Man ผมว่าฉากสนุกมากครับ มี แบบฉากตกตึก เฮ้ย น่ากลัวและสมจริงดี ออกมาแล้วรู้สึกเวียนหัวเลย เพราะมันต้องใส่แว่นด้วย
Harry Potter
เสร็จจาก Spider-Man ก็รีบเดินมาที่ Harry Potter เลย ยื่นบัตรคิวให้ จนท แล้วก็รีบเดินเข้าไป
รูปนี้คือตรงทางเข้า แต่ถ่ายตอนขาออกมานะครับ เลยเห็นว่าคนไม่ค่อยมี
เดินมาอีกนิดก็จะเจอประตูทางเข้าของจริงละ
จะผ่านโซน ร้านค้า มุมล่อตาล่อใจ ต่างๆ หรือเรียกง่ายๆ คือจำลองสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในหนัง Harry Potter มานะแหละ แต่อย่าพึ่งสนใจ ให้รีบมุ่งตรงไปที่ปราสาทฮอกวอตส์ เลย รีปไปต่อคิวก่อน
รถไฟจากในหนังที่จะพาไปยัง ปราสาทฮอกวอตส์
มาถึงทางเข้าปราสาทฮอกวอตส์ แล้วรีบไปต่อคิวเลย ตรงนี้ จนท ก็จะถามเราว่ามี express pass ไหม ถ้าไม่มีเชิญทางนี้เลยจร้า 555
ผมต่อคิวได้ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ (เร็วกว่าต่อคิว Spider-Man อีก) แต่สังเกตุว่า อีกซักพัก แถวยาวมาก ยาวกว่าตอนผมมาตอนแรก แสดงว่า พอถึงรอบของตัวเองแล้วให้รีบเข้ามาเลยนะครับ ไม่งั้นคนจะเยอะ และต่อคิวยาว
พอใกล้จะถึงคิว เราก็จะต้องไปฝากกระเป๋าและสิ่งของต่างๆ ไว้ในล๊อคเกอร์ ให้เข้าไปแต่ตัวครับ จุดนี้ก็ให้รีบหาล๊อคเกอร์ และฝากของให้เรียบร้อย จะได้รีบไปต่อแถวเข้าไปเล่น
และในที่สุดก็ถึงคิวผมครับ 555 เครื่องเล่นนี้ จะไม่ใช่นั่งรถแบบ Spider-Man และ transformer สำหรับ Harry Potter นี้จะเป็นที่นั่งชุดละ 4 คน แล้วก็เริ่มเข้าไปในฉากในหนังเลยครับ จะมีอยู่ 3 4 ฉากใหญ่ๆ เหมือนขี่ไม้กวาดตามแฮรี่เข้าไปในเรื่อง ซึ่งเก้าอี้มันก็จะค่อนข้างเหวี่ยว หรืออาจจะมีกลับหัวบ้างบางช่วงนะครับ ถึงต้องมีการฝากของไว้ที่ล๊อคเกอร์ก่อนเข้าไปเล่น เพราะของอาจจะตกได้
และแล้วก็ได้เล่น Harry Potter สมใจ แต่… เล่นไปซักพัก เครื่องดับกลางอากาศ ระหว่างเล่นอยู่ แบบจออะไรดับไปเลย ดีนะไม่อยู่ในท่าห้อยหัว อีกซักพักเครื่องเปิดขึ้นมาใหม่ ไปต่อ แต่บ้างช่วงคือจอมืดไปเลย ตอนนั้น แบบอ้าว งานเข้า กว่าจะได้เล่นมาเจอแบบนี้อีก
แต่พอออกมา จนท ก็ให้คนที่เล่นรอบที่มีปัญหาเมื้อกี้ เดินวน แล้วไปเล่นใหม่เลยทันที ตอนนั้นแบบ ก็โอเคนะ ได้เล่น 2 รอบติดเลย แต่ออกมารอบ 2 นี่มีอาการจะอ๊วกครับ วิงเวียนไปเลย 555
ออกมามาหาถ่ายรูปปราสาทฮอกวอตส์ ในขณะที่ฝนตก
ขอชิม Butter Beer ซะหน่อย เนื่องจากตอนนี้อากาศหนาวมาก ดูมือผมซิ เหี่ยวเลย ฝนตกด้วย เลยขอเป็น Butter Beer ร้อน ไม่มีแอลกอฮอล์ นะครับ
ตอนออกท่นี่ฟ้ายิ่งครึ้ม ฝนก็ตกครับ ลมแรง หนาวมาก
รูปภาพช่วงขากลับออกมาครับ
สำหรับวันนี้ผมสมใจละ ได้เล่น Harry Potter แต่วันนี้ก็เลยได้เล่นแค่ 2 เครื่องเล่นคือ Harry Potter และ Spider-Man จะว่าคุ้มไหมกับบัตร 1 day pass ที่ซื้อมา ก็ต้องบอกเลยว่าไม่คุ้ม แต่ก็ต้องโทษตัวเองที่หาข้อมูลมาไม่ดี และไม่ได้เตรียมตัวมาให้ดีสำหรับการมาที่นี่
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บของ Universal Studios Japan
ถึงได้บอกครับว่า มันไม่ใช่ที่ๆ นึกจะมาแล้วก็มาเลย มันต้องมาแบบเตรียมตัว เตรียมความพร้อมและศึกาาข้อมูลมาพอสมควร
ท่านใดจะมาก็เตรียมตัวกันมาดีๆ นะครับ จะได้ไม่พลาดเหมือนผมนะ ฮ่าๆ
ขอให้เที่ยวกันให้สนุกนะครับ