Review : เที่ยวหลวงพระบาง ประเทศลาว 4วัน 3คืน : M Journey
เที่ยวหลวงพระบาง
กลับมาอีกแล้ว กับการเดินทางของ M Journey – เอ็ม พาบิน ทริปนี้จะพาไปเที่ยวที่เมืองหลวงพระบาง , ลาว ประเทศเพื่อนบ้านของเรานี่เอง จะบอกว่าเป็นการเดินทางไปครั้งแรกของผมเลยครับได้แนวร่วมอีก 2 คน สรุปทริปนี้ก็เลยได้เดินทางกันทั้งหมด 3 คนครับ
ถ้าใครยังไม่เคยไปเที่ยวลาว หรือยังไม่เคยหาข้อมูลการเที่ยวเลย อาจจะมองภาพไม่ออกว่า ลาวเที่ยวอะไรยังไง การแลกเงิน การเดินทางภายในลาวต้องยังไง และเห็นช่วงนี้คนไปเที่ยววังเวียงกันเยอะ ถ้าใครจะไปเที่ยววังเวียง ก็ต้องบินไปลงหลวงพระบางนี่แหละครับ จะใกล้กว่า อะเอาเป็นว่าเดี๋ยวรีวิวนี้เราจะพาไปเที่ยวหลวงพระบางและเล่าสิ่งต่างๆ ที่ได้ไปพบเจอมา และบางอย่างที่เราได้ไปเห็นแล้วถึงกับช๊อค ต้องรีบเอามาบอกต่อนักท่องเที่ยวไทยให้ได้รู้ก่อนเดินทางไป
ไปเริ่มต้นการเดินทางกันเลย
ทริปนี้เราจองตั๋วเครื่องบินของแอร์เอเชีย เดินทางวันที่ 20-23 พ.ค. 2560 ไป 4 วัน 3 คืนกันเลยทีเดียว จริงๆ ถ้าไปไฟล์ทเช้า กลับไฟล์ทค่ำก็ซัก 3 วัน 2 คืน กำลังดี แต่ของเราเน้นถูกเลยได้ไฟล์ทไม่ค่อยสวยเท่าไร
วันที่ 20 เราบินจาก ดอนเมือง 14.30 น. – หลวงพระบาง 16.00 น. เกือบทริปล่มซะแล้ววันนี้ เกือบมาไม่ทันครับดีที่มำเว็บเช็คอินมาก่อน ตัดภาพไปตอนขึ้นเครื่องเลยนะครับ สังเกตว่า ผดส ไฟล์ทนี้จะเป็นฝรั่งซะเยอะ มาเที่ยวไทย แล้วก็บินไปเที่ยวลาวต่อ
บนเครื่อง แอร์จะเดินแจกใบ ตม. และใบ ศุลกากร บินมาชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงหลวงพระบาง ก่อนเครื่องลง สังเกตภูมิประเทศแถวนี้เต็มไปด้วยภูเขา และธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์มากเลย พอลงเครื่องมา เราก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นมาก อบอุ่นจนร้อนเลย 555 ลงเครื่องมาก็ต้องเดินตากแดดข้างๆ อาคาร แล้วค่อยเข้าสู่อาคารผู้โดยสารครับ
ผ่าน ตม. เสร็จก็จัดการหาแลกเงินกีบ ซึ่งสามารถเอาเงินไทยแลกได้เลยนะครับ หรือไม่ก็เอา USD แลกก็ได้ อย่างพวกผมก็แลกคนละ 2-3 พันบาท ก็เอาเงินไทยแลกเลยครับ ไม่ได้เสียเรทมาก
***จากที่สังเกต เรท ที่สนามบินจะดีกว่าเรทตามร้านแลกเงินในหลวงพระบาง
***การใช้เงินในลาว จริงๆ สามารถจ่ายได้ทั้งเงินบาท เงิน USD และ เงินกีบ แต่ก็แนะนำแลกเงินกับไว้ด้วยครับ เพราะถ้าจ่ายเงินบาทจะแพงกว่าจ่ายเงินกีบ
เราเข้าเมืองโดยใช้บริการของเคาน์เตอร์แท๊กซี่ในสนามบิน ค่าใช้จ่ายคนละ 50,000 กีบ เป็นรถตู้ครับ นั่งรวมกับคนอื่นด้วย โดยรถจะไปส่งเราที่พักเลย สนามบินอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองครับ ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีเท่านั้นเอง
ที่พักทริปนี้เราพักที่ Phanhthasone Guesthouse เป็นห้อง 3 คน ห้องน้ำในตัว ราคา 3 คืน 2000 บาทเท่านั้นเอง หารแล้วตกคนละ 666 บาท/คน ถูกมากครับ เป็นที่พักที่ค่อนข้างดังนะ เพราะแท๊กซี่ รถ รับจ้าง รู้จักที่นี่หมดเลย ที่ตั้งจะอยู่หลังร้านทานอาหารเช้า ประชานิยม ที่คนไทยฮิตๆ ไปกินกันครับ
เก็บของเข้าที่พักเสร็จเดินไปหาของกินที่ตลาดมืดกัน แล้วก็มองเห็นซอยที่มองแล้วน่าจะเป็นซอยขายอาหารเลย ก็เลยมุ่งตรงไปซอยนี้เลย
มาช่วง 5 โมงเย็นร้านกำลังตั้ง มาเจอร้านส้มตำร้านนี้ก็เลยจัดเลย มีตำหลายอย่างให้เลือกมากครับ แต่เราก็พยายามสั่งตำที่ไม่แปลกจนเกินไป ที่คิดว่าจะทานกันได้ มาลาวนี่พูดไทยได้เลยนะครับ คนลาวฟังไทยรู้เรื่อง เพราะ ทีวี เพลง เค้าก็ดูของช่องไทยครับ
ได้มาแล้วมื้อเย็นของเรา จะบอกว่าส้มตำแซ่บมาก ออกแนวอิสานแท้บ้านเรามากครับ ปลาร้านี่ถึงใจจริงๆ แต่เนื้อปลาย่างสังเกตว่าทำไมแห้งๆ แข็งๆ เดี๋ยวช่วงท้ายๆ เรามีคำตอบ ที่พอเราเห็นแล้วเราไม่สั่งของย่างแบบเสียบไม้กินอีกเลย
ระหว่างนั้นสั่งแป๊ปซี่ แต่อยากได้น้ำแข็งกับแก้ว สั่งเป็นภาษาลาวเลย อ้ายๆ ขอน้ำก้อน(น้ำแข็ง) กับโจก(แก้ว) นำเด้อ ได้มาตามต้องการครับ 555
กินข้าวเสร็จกะว่าจะเดินขึ้นไป ขึ้น พระธาตุภูสี (พูสี) แต่เดินขึ้นไปถึงตรงซื้อบัตร ก็เลยคุยกันว่า เดี๋ยวเรามาวันหลังดีกว่า เพราะกำลังจะค่ำ และที่สำคัญยุงเยอะมาก ใครจะมาที่นี่ทายากันยุงมาด้วยครับ
#รีวิวเที่ยวหลวงพระบาง #เที่ยวหลวงพระบางด้วยตัวเอง
ตรงนี้เป็นตลาดมืด ฟังชื่อแล้วดูน่ากลัวนะครับ เหมือนขายของใต้ดิน ยังไงไม่รู้ แต่ภาษาลาว ตลาดมืดก็คือตลาดค่ำนี่เองครับ มีตั้งขายของทุกวัน คนไม่แน่นเท่าไร ถึงแม้จะเป็นช่วงวันหยุด ถนนเส้นตลาดมืดนี้เรียกได้ว่าเป็นถนนเส้นหลัก แหล่งท่องเที่ยวหลายๆที่อยู่ถนนเส้นนี้ครับ
เดินไปจนสุดตลาดมืด ก็จะเป็นโซนร้านน่านังเยอะมาก ทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านนั่งชิลล์ เราเดินมาเจอร้าน DEXTER ดูบรรยากาศแล้วโอเค มีวายฟายฟรีด้วย เน็ตแรงด้วย โดยรวมแล้วโอเคครับให้ผ่าน ทั้งราคาและรสชาติอาหาร เครื่องดื่มมีหลากหลายนะครับ ทั้งกาแฟ หรือเหล้าเบียร์
จบวันแรกครับ มาถึงหลวงพระบางเย็นเลยยังไม่ได้เที่ยวอะไรมา เน้นชิลล์ๆมากกว่า
วันที่ 2
เช้าวันนี้ออกมาทานร้าน อาหารเช้ายอดฮิต ของนักท่องเที่ยว ชื่อร้านประชานิยม อยู่ข้างหลังที่พักเรานี่เอง ใกล้มาก ร้านนี้ท่าทางจะดังมากนะครับ เพราะเล่นเอาร้านข้างๆ ไม่มีคนนั่งเลย พวกเราก็เลยคุยกันว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปกินร้านข้างๆ ไปช่วยอุดหนุนเค้าหน่อย
มื้อนี้ก็สั่งมาเป็นข้าวต้ม ซึ่งตอนกินก็เฉยๆ นะครับ พอวันหลังเราไปกินร้านอื่น เราถึงรู้ว่าร้านอื่นอร่อยกว่า 555 นี่ตกลงร้านนี้ดังเพราะอะไรนี่ แต่อย่างอื่นเค้าก็โอเค แต่ข้าวต้มร้านนี้ไม่ให้ผ่านครับ
กินมื้อเช้าเสร็จ วันนี้เราจะไปเที่ยวน้ำตกกวางสีกัน ตอนกินข้าวเสร็จมีลุงคนขับรถมาถามเราพอดีว่าสนใจไป น้ำตกไหม 2 แสนกีบ ไปกลับ ก็เลยถามลุงว่ามีคนไปเพิ่มอีกไหมครับ จะได้ช่วยกันหาร ลุงแกก็เลยบอกมีอีก 2 คน เดี๋ยวไปขับรถตามหาก่อน ซึ่งลุงแกไปหาจนเจอ ก็เลยได้มีคนช่วยหารค่ารถ
น้ำตกกวางสี
นั่งรถออกมาจากหลวงพระบางประมาณ 1 ชั่วโมงครับ ถนนบางช่วงก็ไม่ค่อยดีเท่าไร บางช่วงกระแทกซะจนถ้าใครท้องคงแท้งแน่ครับ 555
ตอนที่รถมาจอดก่อนถึงทางเข้าน้ำตกจะมีร้านค้าร้านอาหารเยอะครับ บริเวณที่จอดรถ ลงคนขับบอกร้านอาหารที่นี่เค้ามีบริการเอาอาหารขึ้นไปส่งบนน้ำตกด้วยนะครับ นัดเวลากับแม่ค้าไว้ เดี๋ยวเค้าเดินเอาขึ้นไปส่ง ก็รู้สึกว่าสะดวกดี เล่นน้ำเมื่อยๆ หิวๆ ก็จะได้กินเลย ก็เลยสั่งอาหารไว้ก่อนครับ
จากนั้นก็ไปที่ น้ำตกกันเลย โดตต้องเสียค่าเข้าคนละ 20,000 กีบ
ระหว่างทางเดินเข้ามาก็จะเจอที่เลี้ยงหมีดำ เต็มเลยครับ หลายตัวมาก สรุปมาน้ำตกก็ได้ดูหมีไปด้วย เห็นหมีไหมครับ ตัวดำๆ
เดินผ่านป่ามาเรื่อยๆ ก็มาเจอน้ำตกจุดแรก แค่จุดแรกก็สวยมากแล้วครับ แต่เห็นว่าชั้นบนๆ เดินขึ้นไปอีกสวยกว่านี้
จุดนี้จะเป็นจุดที่คนเล่นน้ำเยอะที่สุดครับ มีต้นไม้ให้กระโดดน้ำด้วย มองดูเหมือนไม่สูงนะ แต่พอไปยืนแล้วเสียวๆ ไม่เบา บางคนไปยืนแล้วไม่กล้าโดดก็มี
วันที่มาอากาศร้อนมากๆ ครับ ได้มาเล่นน้ำตกนี่สบายตัวไปเลย สนุกสนานมาก
น้ำตกบางจุกก็ไม่ได้ให้ลงเล่นนะครับ จะมีป้ายบอกอยู่
เดินมาถึงชั้นบนๆ เจอว่าแม่ค้าที่สั่งอาหารไว้ เดินเอาอาหารมาส่งพอดี คือเค้าก็เดินหาเรามาเรื่อยๆ จากชั้นแรกครับ 555 ดีนะยังเจอ ช่วงด้านบนน้ำตกก็จะมีโต๊ะให้นั่งทานข้าวเยอะครับ มีร้านอาหารด้วยนะครับ ด้านบน ดูอาหารมื้อนี้ของเราซิครับ ได้เยอะมาก กินกันไม่หมดเลย
น้ำตกจุดนี้น่าจะเป็น จุดไฮไลท์ของที่นี่เลยครับ สวยจริงๆ
เล่นน้ำตกถึงประมาณบ่ายสองเราก็นั่งรถกลับมาที่พักครับ พักเหนื่อยจนช่วงเย็นได้เวลาไปหามื้อเย็นกิน ซึ่งเราเล็งร้านนี้ไว้แล้วตั้งแต่เมื่อวาน ร้านบุฟเฟ่ต์ หมูกระทะนี่เอง มาลองชิมซักหน่อยว่าที่ลาวจะรสชาติยังไง
มาถึงตอนร้านกำลังตั้งพอดีครับ เป็นลูกค้าโต๊ะแรกของร้านเลย ของก็เยอะอยู่ครับ ราคาคิดเป็นเงินไทยแล้วประมาณ 280 บาท/หัว ไม่รวมเครื่องดื่ม ใครจะไปตักเนื้อมาย่างก็ถามพนักงานก่อนนะครับ ว่าเนื้ออะไร ตอนแรกจะไปตักเนื้อมาย่าง ตอนแรกนึกว่าเนื้อวัว ที่ไหนได้เนื้อควาย 555 แต่เนื้อหมูก็มีนะครับ
บรรยากาศร้านดีมากเลยนะครับ ทานไปด้วย นั่งชมวิวแม้น้ำโขงไปด้วย
เครื่องดื่มก็เลือกกันได้เลย มีให้ลองหลากหลาย
พูดถึงรสชาติ ก็พอได้อยู่ครับ น้ำจิ้มจะแปลกๆ นึดหนึง แต่ก็ได้อยู่ แต่เนื้อที่นี่เค้าจะเนื้อจริงๆ เลย ไม่ได้มีเนื้อหมักแบบแถวบ้านเรา เห็นรูปแล้วก็หิวครับ 555
บรรยากาศริมโขงยามเย็น มันช่างชิลล์เหลือเกิน อีกฝั่งแม่น้ำโขงก็เห็นว่ามีร้านอาหารน่าทานอยู่นะครับ แต่ต้องนั่งเรือข้ามฟากไป อ้อ ที่นี่มีบริการล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกด้วยนะครับ ราคาก็ต่อรองกันเอาครับ
กินเสร็จก็เดินย่อยมาเรื่อยๆ มาที่แถวๆ ตลาดมืดเดี๋ยวจะไปหาของหวานกินที่ร้านโจมา อีกร้านดัง ระหว่างทางเจอ ไปรษณีย์ ดูแปลกตาดี ถ่ายรูปมาให้ชมกันซะหน่อย
ตึกร้านโจมา มี 2 ชั้นครับ
บรรยากาศร้านก็โอเคครับ แต่ราคานี่น้องๆ สตาร์บัค เลย แต่ก็ได้อยู่ เพราะติดแอร์ เป็นไม่กี่ร้านที่มีแอร์ให้นั่งครับ ค่อยยังชั่ว เพราะช่วงนี้ร้อนมาก เดินได้นิดเดียวหาร้านนั่งกินอะไรเย็นๆ อย่างเดียวเลยพวกผม
ของหวานขนม ก็โอเคอยู่ครับ
เปิดประตู กรุณา ยู้
จบวันที่ 2 ครับ จริงๆ วันนี้เพลียกับการเล่นน้ำตกมาก ดันไปลื่นล้มหลายรอบมาก ดีนะไม่เป็นอะไรมาก คือนนี้เดี๋ยวกลับห้องพักผ่อน เก็บแรงไว้เที่ยวพรุ่งนี้ต่อ
วันที่ 3
เช้าวันนี้เราเดินมากินมื้อเช้าอีกร้าน เมื่อวานตอนไปน้ำตกเรามองเห็นร้านนี้ดูน่าเข้า ดี ร้านดูสะอาด วันนี้ก็เลยต้องมาลองชิมซะหน่อย
เป็นร้านที่มีขายเกือบทุกอย่างที่เป็นเมนูอาหารเช้าเลยครับ มื้อนี้สั่งข้าวต้มมาทาน อร่อยใช้ได้เลย ข้าวดูดีกว่าร้านประชานิยมมาก กินเสร็จก็ได้เวลาเดินเที่ยว วันนี้เราจะเดินเที่ยวกันในหลวงพระบางนี่แหละครับ
วันนี้เป็นอีก หนึ่งวันที่ร้อนมากครับ ร้อนแต่เช้าเลย ต้องแวะซื้อน้ำเย็นๆ กินเรื่อยๆ
วัดใหม่สุวรรณภูมาราม
ที่แรกของวันนี้ครับ เป็นวัดที่อยู่ตรงถนน ตลาดมืดที่เรามาเดินกันตอนกลางคืนนั่นเองครับ หาง่ายมาก
จ่ายค่าเข้าก่อนคนละ 10,000 กีบ มีคุณลุงคุณป้า่าทางใจดี นั่งอยู่ครับ
เข้ามาด้านในก็มากราบพระนั่งสงบสติ อารมณ์ จากความร้อนด้านนอกกันซะหน่อย วันนี้แอบใส่ชุดที่ซื้อตรงตลาดมืดเมื่อคืน ครับ แม่ค้าบอกว่า มาลาวก็ต้องใส่เสื้อผ้าลาว เอ้า ซื้อเลยงั้น 555
พระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง
เดินต่อมาที่พระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง มาซื้อบัตรกันก่อนครับ ค่าเข้า 30,000 กีบ ตอนซื้อบัตร จนท บอกห้ามถ่ายรูป ทำหน้าดุด้วย
เปิดตั้งแต่เวลา 08.00-11.30 น. และ 13.30-16.00 น. เค้าพักเที่ยงกัน 2 ชั่วโมงเลยคนประเทศนี้
ก่อนเข้าไปด้านในต้องเอาของไปฝากก่อนที่อาคาร โรงละครพระลักพระราม เป็นห้องล๊อคเกอร์ฝากกระเป๋า ใครใส่ขาสั้นเลยเข่าต้องใส่กางเกงขายาวทับ เค้ามีกางเกงให้เราเปลี่ยนอยู่ครับ แต่เราต้องวางเงินไว้ เดี๋ยวออกมาเค้าคืนเงินให้ครับ
ตอนเข้าไปชมพระราชวัง ไม่ได้เก็บภาพมานะครับ เพราะเค้าห้ามถ่ายรูป ออกมาก็เข้าไปไหว้พระในโบส์ถที่อยู่ด้านหน้าครับ ตรงนี้ถ่ายรูปได้
ด้านล่างจะเป็นวงที่เราเข้าไปดูมาครับ สถาปัตยกรรมยุโรป ด้านในมีแสดงรูป ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ
เห็น จนท เค้าพักเที่ยง พวกผมก็ออกไปหาร้านนั่งกินมือเที่ยงกันบ้าง โซนตึกด้านหน้าเป็นตึกที่เต็มไปด้วยร้านน่านั่งเยอะมากครับ
และก็ได้ที่หลบร้อนทางมือเที่ยง
วัดเชียงทอง
เปิดเวลา 08.00-17.30 น. ค่าเข้าคนละ 20,000 กีบ
กินข้าวเสร็จเดินมาต่อกันที่วัดเชียงทอง วันนี้เป็นวันที่ร้อนมากจริงๆ ครับ ระหว่างทางที่เดินมาพวกผมต้องแวะซื้อสปอนเซอร์ เอ็มร้อยกินกันเลยทีเดียว
ที่วัดเชียงทอง นี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักญณ์ของหลวงพระบางเลยครับ
เข้ามากราบพระด้านในครับ
ประมาณช่วงบ่าย 2 เริ่มร้อนมาก และเราเริ่มไม่มีที่ไป ตอนนั้นมีอีกน้ำตกที่น่าไปคือน้ำตกตาดแส้ กะจะไปโดดน้ำเย็นๆ ซะหน่อย ติดต่อจะเหมารถที่อยู่บริเวณนั้น คนขับรถบอกว่าช่วงนี้น้ำไม่ค่อยมีนะ ต้องบอกตรงๆ เดี๋ยวไปแล้วจะผิดหวัง โอเค งั้นเรากลับที่พักไปพักกันก่อน ช่วงเย็นค่อยออกมาเที่ยวอีก
พระธาตุภูสี (พูสี)
เปิดเวลา 08.00-17.00 น. ค่าเข้าคนละ 20,000 กีบ
สำหรับพระธาตุภูสี นอกจากจะเป็นพระธาตุประจำเมืองหลวงพระบางแล้ว ยังเป็นจุดชมวิวของเมืองหลวงพระบางด้วย ส่วนใหญ่คนก็จะนิยมขึ้นมาชมพระอาทิตย์ตกดินกันช่วงเย็น วันนี้พวกผมก็ขึ้นมาช่วงเย็นๆ มารอชมพระอาทิตย์ตกเช่นเดียวกันครับ
หลังจากจ่ายค่าเข้าแล้ว ต้องเดินตามบันใดขึ้นไปเรื่อยๆ เล่นเอาหอบเหมือนกันนะครับ
ข้อแนะนำคนที่จะขึ้นไป 1.ทายากันยุง 2.พกน้ำ 3.ถ้าต้องการดอกไม้ไหว้พระให้ซื้อไปจากด้านล่าง 4.อาจจะเตรียมไฟฉายไปด้วยเพราะช่วงลงอาจจะมืด
#รีวิวเที่ยวหลวงพระบาง #เที่ยวหลวงพระบางด้วยตัวเอง
ด้านบนก็จะมีพระธาตุอยู่ และจะมีที่นั่งบริเวณรอบๆ ให้นั่งชมวิวได้ และมีอาคารเล็กๆ สำหรับไหว้พระด้วย
จุดถ่ายรูปยอดฮิต ที่จะมองเห็นตัวเมืองหลวงพระบาง และแม่น้ำโขง สังเกตุว่าอาคารบ้านเรือนจะไม่มีตึกสูงนะครับ เพราะหลวงพระบางเป็นเมืองมรดกโลก จึงจะสร้างตึกสูงไม่ได้
ด้านบนนี้จะมองเห็นสนามบินหลวงพระบางด้วย ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งชมเครื่องบนเลยครับ ขึ้นลง ให้ได้เห็นเรื่อยๆ
ช่วงเริ่มค่ำคนเริ่มเยอะ และผู้ที่สร้างความฮือฮาให้กับผู้คนบริเวณคือนักท่องเที่ยวคนนี้ครับ
และแล้วก็ถึงช่วงพระอาทิตย์ตก สวยทีเดียวครับ สมแล้วที่คนขึ้นมาดูกันเยอะจนแน่นเลย
ลงมาจากพระธาตุ ก็มาหามื้อค่ำกินครับ เราพยายามเดินหาร้านที่ทำอาหารสนใหม่ ก็มาเจอร้านนี้ ซึ่งด้านล่างเป็นร้านอาหาร ด้านบนเป็น Guesthouse ครับ มื้อเย็นกินของแซ่บๆ มาลาวได้กินแต่ของแซ่บๆ ครับ ฮ่าๆ
กินข้าวเสร็จ หาร้านนั่งกินอะไรเย็นๆ ต่อ พยายามจะลองหลายๆ ร้านครับ วันนี้มาลองร้านนี้ สังเกตุว่าหลายร้านเจ้าของแท้ๆ แล้วเป็นฝรั่งครับ แต่พนักงานในร้านเป็นคนลาว ไม่น่าละ ราคานี่แพงจริง แพงกว่าไทยอีก บางครั้งก็รู้สึกว่ากำลังนั่งกินกาแฟอยู่ยุโรปราคาแทบไม่ต่างกันเลย
เดินกลับที่พักไปทางตลาดมืด เดินดูของไปด้วย
แวะเก็บภาพวัดใหม่สุวรรณภูมาราม ตอนกลางคืนซักหน่อยครับ
และมีบางสิ่งที่เราอยากจะบอก คืนก่อนเราดันเดินกลับมาถนนเส้นนี้รอบดึกแล้วเจอช่วงที่เค้ากำลังเก็บร้านพอดี
ของย่างที่เสียบใส่ไม้นี้ขายไม่หมดเค้าเก็บยัดใส่ถังสีครับ วันหลังมาเอาออกมาย่างใหม่ เราเห็นการเก็บแล้วบอกเลยไม่กล้ากินครับ หลายๆ ร้านก็เหมือนมารับไปขายจากร้านในซอยนี้ละครับ
มื้อแรกที่มาถึงเราดันกินไปแล้ว ก็ยังว่าทำไมเนื้อปลาแข็งๆ แห้งๆ เหมือนผ่านการย่างมาอย่างยาวนาน
มาถึงอีกร้านอยู่ใกล้ๆ กันเรียกว่าร้านดังเป็นบุฟเฟ่ต์ ตอนเดินผ่านคืนตอนประมาณ 4 5 ทุ่ม ป้าเจ้าของร้านเรียกให้ช่วยกินหน่อย ของแบบเหลือเต็มทุกอัน และมีเป็นชุดแบบนี้อยู่ด้วยกัน 3 จุดด้วยกัน คือเยอะมากครับ แล้ว 4 5 ทุ่มแล้วใครจะมากิน เหลือแน่ๆ แล้วของเหลือเยอะขนาดนี้จะเอาไปไหนละ คิดกกันเอาเองแล้วกันนะครับ
มองมาเจอถึงด้านล่างแล้วรู้เลย ร้านตะกี้เก็บของย่างใส่ถังสี อย่าบอกนะว่าร้านนี้ก็… คิดกันเอาเอง
ไม่แปลกใจเลยครับที่คนรู้จักหลายคนที่มาเที่ยวหลวงพระบางท้องเสียกัน ดีที่พวกผมได้เจอกันตั้งแต่คืนแรก วันหลังมาก็เลยเลือกกินเฉพาะอาหารที่ทำสดใหม่เลย
จบวันที่ 3 เป็นอีกวันที่เพลียแดดมากครับ กลับที่พักนอนดีกว่า
วันที่ 4
ตื่นมาเพื่อตักบาตรเช้า 2 คืนแรกที่มานอนไม่ตื่นครับ วันนี้วันสุดท้ายต้องตื่นมาให้ได้ น้ำยังไม่ต้องอาบ ออกมาชุดนอนนี่ละ ใครจะใส่บาตรเช้า ควรมาตั้งแต่ 05.20 น. นะครับ พระจะมีด้วยกัน 3 วัด เดินผ่านถนนหลักๆ ครับ พวกผมเดินออกมาจากที่พักก็เจอพระกำลังเดินมาพอดี ดีที่ไม่ต้องออกไปไกล ลองถามคนแถวนั้นก็ได้นะครับ ว่าจะใส่บาตรเช้าต้องไปรอตรงไหน แต่ตรงไหนที่พระเดินผ่านก็จะสังเกตุว่ามีคนมานั่งรออยู่แล้วครับ
ตรงใกล้ๆ นั้นจะมีร้านขายขาวเหนียวสำหรับใส่บัตรครับ ข้าวเหนียวร้อนมาก เพราะเดินมาเป็นสายนี่ผมหยิบใส่ไม่ทันเลย ร้อนมากๆ
ใส่บาตรเสร็จ มานั่งดูวิถีชีวิตคนที่ริมโขง ครับ ชาวบ้านแถวนี้ข้ามมาซื้อของแล้วก็ลงเรือข้ามฟากกลับไปอีกฝั่ง
มาต่อมื้อเช้า เช้านี้ตั้งใจมาอุดหนุนร้านข้างๆ ประชานิยมครับ ซึ่งแทบจะมีแค่พวกผมนั่งเลย มื้อนี้พวกผมทานเป็นข้าวต้ม จะบอกว่าอร่อยกว่าร้านประชานิยม 555 ลองไปกินกันดูนะครับ ทั้ง 2 ร้านเลย
หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จ ก็กลับเข้าที่พักไปนอนต่อครับ เพราะวันนี้ไม่น่าจะออกไปเที่ยวไหนแล้ว เพราะเก็บที่เที่ยวที่อยากไปหมดแล้ว พอช่วงเที่ยงเราก็เก็บกระเป๋าเช็คเอาท์ที่พัก และฝากกระเป๋าไว้ก่อน จากนั้นก็ออกมาหาร้านนั่งอีกตามเคย วันนี้มานั่งร้านที่พนักงานธนาคารที่เราไปแลกเงินแนะนำเรามาครับ
อาหารและการบริการที่นี่โอเคมากๆเลยนะครับ ฝรั่งนั่งเยอะเลย มีมุมให้นั่งเยอะครับ เรานั่งอยู่นี่กันนานเลยครับ จนประมาณ เกือบๆ บ่าย 2 ก็ไปเอากระเป๋าที่พักแล้วก็ออกเดินทางไปสนามบินเลย
วันนี้เรามีบินกลับไฟล์ทเวลา 16.45 น. ครับ มาถึงสนามบินกันเร็วมาก จริงๆ มาซัก 1.30 ชั่วโมงก่อนเดินทางก็ได้นะครับ สะนามบินเล็กๆ เดินไปขึ้นเครื่องแป๊ปเดียวครับ แอร์ในสนามบินไม่เย็นด้วย อาจจะเพราะอากาศข้างนอกร้อนมากด้วย
และแล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับครับ
จบการเดินทางทริปลาว ครั้งแรก ที่เมืองหลวงพระบาง
และมุมมองที่ได้จากการไปลาวครั้งแรกนี้คือ
1.ของที่ลาวแพงกว่าไทยครับ ซึ่งจะค่อนข้างขัดกับความคิดตอนแรกว่าลาวน่าจะของถูกกว่าไทย แต่พอไปจริงๆ แล้วดันแพงซะงั้น อาจจะเพราะของหลายๆ อย่างนำเข้าจากไทยไปขาย
2.ของที่ขายในลาว เป็นสินค้าจากไทยซะส่วนใหญ่เลยครับ โดยเฉพาะตอนไปเดินในร้านสะดวกซื้อ บางครั้งก็คิดว่ากำลังเดินอยู่ร้านที่ไทย
3.คนลาวดูทีวีช่องไทย และฟังเพลงจากไทย
4.คนลาวฟังไทยได้ ส่วนหนึงอาจจะเพราะตามข้อ 3
5.ที่หลวงพระบางคนไม่ค่อยพลุกพล่าน แม้จะเป็นช่วงวันหยุดก็ตาม จึงเหมาะมากกับนักท่องเที่ยวที่ไม่ชอบความวุ่นวาย
6.ลาวกับไทยค่อนข้างคล้ายกันมากแทบจะเหมือนกันเลยทั้งด้านวัฒนธรรมและการใช้ชีวิต
7.ร้านค้า ร้านอาหารดีๆ ที่เห็นหลายร้านเจ้าของจริงๆ เป็นต่างชาติ ถ้าอยากอุดหนุนคนท้องที่จริงๆ ให้เข้าร้านของชาวบ้านครับ สังเกตไม่ยาก
#รีวิวเที่ยวหลวงพระบาง #เที่ยวหลวงพระบางด้วยตัวเอง