แชร์!! เทคนิคการเตรียมตัว “เที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเอง” : MJourney
“การเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเอง”
ช่วงนี้มีหลังไมค์ เข้ามาถามที่เพจกันเยอะเกี่ยวกับขั้นตอนการเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเอง
หลายคนยังไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศ เลยไม่รู้เลยจริงๆ ว่าจะต้องเริ่มต้นอะไรตรงไหนก่อน
ช่วงนี้กระแสการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลายคนอ่านรีวิว หรือเห็นเพื่อนๆ ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเอง ก็อยากลองไปเองซักครั้งบ้าง
วันนี้ผมจะมาแชร์ ขั้นตอนการเตรียมตัวเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น
เรื่องของ การจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก การวางแผนการเดินทาง การใช้งานอินเทอร์เน็ตต่างประเทศ การแลกเงิน การทำประกันการเดินทาง ฯลฯ
ก่อนอื่นขอเล่าเกี่ยวกับตัวผมเองคร่าวๆ ก่อนนะครับ
ผมชื่อ เอ็ม ปัจจุบันทำเพจ “M Journey – เอ็ม พาบิน” เป็นเพจสไตล์ท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเอง ครับ
เริ่มต้นออกเดินทางต่างประเทศครั้งแรก หลังเรียนจบปริญญาตรี ทำงานได้ 6 เดือนก็ได้มีโอกาสบินไปเที่ยวสิงคโปร์ ตอนนั้นเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของผมเลย และต้องไปคนเดียว สุดท้ายก็ไปได้กลับมา ด้วยความภาคภูมิใจในตัวเองเล็กๆ ครับ ว่าสามารถเดินทาง ต่างประเทศครั้งแรกและคนเดียวได้
Godafoss waterfall , Iceland
หลังจากนั้น 6 7 ปี ก็ได้มีโอกาส เดินทางอย่างต่อเนื่อง จน ณ ปัจจุบันก็ออกเดินทางด้วยตัวเองมาแล้วกว่า 25 ประเทศ ได้เขียนรีวิวแชร์ประสบการณ์การเดินทางต่างๆ ไว้ค่อนข้างเยอะ ทั้งใน “พันทิป” และเว็บไซต์ส่วนตัวของผมเอง “www.mprabin.com” ไว้ค่อนข้างเยอะ เข้าไปติดตามอ่านกันได้ครับ
จากการออกเดินทางด้วยตัวเองมาหลายประเทศ
วันนี้ผมจะมาอธิบายและสรุปข้อมูลที่จำเป็นต้องรู้สำหรับการเตรียมตัวเดินทางเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเอง ว่าสิ่งที่จำเป็นต้องรู้มีอะไรบ้าง
อาจจะไม่ถึงขนาดลงลึกทุกขั้นตอนอย่างละเอียด แต่จะแนะนำแนวทางเครื่องมือให้ไปดูข้อมูลต่อกันอีกที
ผมขอเรียงตามขั้นตอนการเกิดทริปของผมนะครับ
.
ตั๋วเครื่องบิน
ที่ต้องมาให้อันดับหนึงเลย เพราะผมได้ตั๋วโปรถูกๆ ผมถึงไปครับ เพราะการได้ตั๋วโปรเครื่องบินถูกๆ ทำให้ทริปของเราประหยัดลงไปได้มากครับ เพราะปัจจัยอย่างอื่นเราคุมได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พัก หรืออาหารการกิน
.
:: ตั๋วเครื่องบินจองตอนไหนได้ราคาถูก?
- ต้องจองช่วงที่สายการบินจัดโปรโมชั่นครับ ไม่เกี่ยวกับจองล่วงหน้านานหรือไม่นานนะครับ ต้องจองตอนโปร บางทีการจองล่วงหน้านานแต่ไม่ใช่จองช่วงโปร ก็อาจจะไม่ถูกครับ
:: การจองตั๋วต้องทำยังไง?
- มีหลายวิธีมากครับ ทั้งจองด้วยตัวเองผ่านเว็บสายการบิน หรือจะจองกับเอเจนท์ต่างๆ ก็ได้เช่นกัน ลองเปรียบเทียบราคาดู อันไหนถูกก็จองอันนั้น
:: ยังไม่มีพาสปอร์ตจองได้ไหม?
- จองได้ครับ หลายสายการบิน ใช้แค่ชื่อ-สกุล ภาษาอังกฤษ และ วดป เกิด คศ เท่านั้นในการจอง พาสปอร์ตไปทำทีหลังได้ ค่อยอัพเดทข้อมูลตอนทำเว็บเช็คอินอีกที
:: การเดินทางไปขึ้นเครื่อง
- ตรวจสอบวัน เวลาเดินทาง และสนามบิน ก่อนไปขึ้นเครื่อง
- เวลาที่เคาน์เตอร์เช็คอินเปิด
- ไฟล์ทต่างประเทศ 3-1 ชั่วโมงก่อนเวลาเดินทาง // มาถึงสนามบินช้ากว่า 1 ชั่วโมงก่อนเดินทาง สายการบินสามารถที่จะปฏิเสธการออกตั๋วได้
- ไฟล์ทในประเทศ 2 ชั่วโมง -45 นาทีก่อนเวลาเดินทาง
- ควรทำเว็บเช็คอินก่อนเดินทาง
- แทบทุกสายการบินเปิดให้เราเข้าไปทำเว็บเช็คอินและพิมพ์ Boarding pass (ตั๋วสำหรับถือขึ้นเครื่อง)ที่หน้าเว็บก่อนเดินทางได้
- หากเราพิมพ์ Boarding pass มาแล้ว และเราไม่มีกระเป๋าโหลด เราสามารถเดินไปรอขึ้นเครื่องได้เลยโดยไม่ต้องมาแสดงตัวหน้าเคาน์เตอร์สายการบิน(กรณีนี้เราอาจจะมาสนามบินใกล้ๆ เวลาเดินทางก็ได้)
- ควรเผื่อเวลามาถึงสนามบินก่อนเครื่องออกซัก 2-3 ชั่วโมงกำลังดี เพราะบางสนามบินคนเยอะมากๆ อาจจะทำให้ต้องรอคิวนาน
.
การวางแผนการเดินทาง
เมื่อได้ตั๋วแล้ว ขั้นตอนต่อมา คือ การวางแผนการเดินทาง ซึ่งถ้าเป็นการเดินทางไปเป็นครั้งแรก กว่าจะวางแผนการเดินทางได้จะใช้เวลาค่อนข้างนาน เราจะต้องหาข้อมูลเรื่องที่เที่ยว เรื่องการเดินทางค่อนข้างเยอะ ให้พอเห็นภาพรวมก่อน แล้วถึงจะวางแผนการเดินทางได้ว่าจะไปตรงไหนก่อนหลัง
:: ขั้นตอนการวางแผนการเดินทาง (ค้นหาผ่าน Google ได้เลย)
1.ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวในเมือง หรือประเทศที่เราจะไปว่ามีตรงไหนบ้าง ที่ไหนเราสนใจอยากไปก็จดๆ ไว้ก่อน
2.ทำการหาข้อมูล รายละเอียดเชิงลึกของสถานที่ท่องเที่ยว แต่ละสถานที่ว่าเป็นยังไง ใกล้ ไกล เวลา การเดินทาง ค่าเข้า เป็นต้น
3.เริ่มเอาสถานที่ท่องเที่ยวไปลงทริป แยกตามวัน ตามความเหมาะสมของเวลา เช่น สถานที่นี้ อาจจะต้องใช้เวลาทั้งวัน อีกสถานที่ใช้เวลาเที่ยวไม่น่านาน เอาไปรวมไว้เดียวกันกับวันนี้ และจัดที่เที่ยวที่ไปทางเดียวกันไว้ด้วยกัน เป็นต้น
4.สำหรับการเดินทางไปประเทศที่การเดินทางโดยรถไฟฟ้าค่อนข้างสะดวก เช่น สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง สถานที่เที่ยวก็จะเดินทางไปได้โดยรถไฟฟ้าได้เลย วิธีการเพื่อให้ง่ายของผมคือ เอาแผนที่รถไฟฟ้ามากาง (ปรินส์ได้เลยจากในเน็ต) จากนั้นทำการมาร์คจุดเลยว่า ที่เที่ยวไหนติดสถานีไหน ออกทางออกไหน จะทำให้เรามองเห็นภาพและวางทริปได้ง่ายขึ้น
***การจัดแผนการเดินทาง ต้องมองถึงเรื่องการหาที่พักและปัจจัยอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย
เช่น วันหยุดคนน่าจะเยอะ หลักเลี่ยงการไปที่นี่แล้วไปเที่ยวอีกที่ก่อน
แนะนำว่าให้อ่านรีวิวเยอะๆ ก่อนวางแผนการเดินทาง รีวิวในเน็ตเยอะมากครับ โดยเฉพาะประเทศที่คนไทยนิยมไปเที่ยว รีวิวเพียบ
สำหรับการทำแผนการเดินทางแนะนำว่าไม่ต้องทำละเอียดมาก
เอาแค่คร่าวๆ ก็พอว่าวันนี้จะไปที่ไหน ไม่ต้องถึงขนาดว่า ลงเวลาตื่น เวลานอนกันเลย มันก็ไม่ต้องขนาดนั้น
เพราะไปถึงสถาการณ์จริง แผนเปลี่ยนได้ตลอด จากปัจจัยต่างๆ
เช่น สภาพอากาศ พลาดการเดินทาง เช่นตกรถไฟ ตกรถ ต่างๆ หรือแม้กระทั่งอาการเจ็บป่วยระหว่างเดินทาง ก็อาจจะทำให้แผนเปลี่ยนได้ตลอด
พยายามหาข้อมูลด้วยตัวเองก่อนที่จะไปถามคนอื่นครับ ถ้าคิดจะไปเที่ยวด้วยตัวเอง ก็ต้องรู้จักที่จะหาข้อมูลเองก่อน สงสัยตรงไหนค่อยไปถามผู้รู้อีกที
***ไม่มีใครที่จะวางแผนการเดินทางของเรา ได้ถูกใจเรา เท่ากับเราวางแผนเอง***
เพราะเราคือคนที่รู้เงื่อนไขในความสะดวกและไม่สะดวกของเรา
.
การจองและเลือกที่พัก
สำหรับในต่างประเทศที่พักเองก็มีหลากหลาย ทั้ง Guest houses , Hostel (เป็นที่พักราคาประหยัดมีทั้งแบบห้องรวมและห้องส่วนตัวแล้วแต่ที่) และ Hotel แต่ละแบบก็มีราคาที่แตกต่างกันออกไป มือใหม่มันจะเข้าใจว่า การจองกับที่พักโดยตรงต้องได้ราคาถูกกว่า ขอบอกว่าผิดนะ ครับ น้อยมากที่จะเจอแบบนั้น
ต้องบอกว่าจองกับเว็บเอเจนท์ต่างๆ ถูกกว่าครับ เช่น agoda, booking.com , expedia เป็นต้น จริงๆ ยังมีอีกเยอะมากหลายเจ้านะ , ทำไมถึงถูกกว่า ก็เพราะเอเจนท์พวกนี้เค้าส่งลูกค้าให้ทางที่พักจำนวนมาก อำนาจต่อรองเลยสูง ถ้าที่พักขายถูกกว่า ใครจะมาจองกับเอเจนท์พวกนี้ละ จริงไหม?
และสำหรับการเลือกที่พักนั้น ส่วนใหญ่แล้วผมก็จะหาเลือกที่พักเองเลยไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นที่ๆ มีคนไทยเคยพัก เคยรีวิวไว้
4 เทคนิคในการเลือกที่พักของผมคือ
รูปภาพประกอบจากเว็บ booking.com
1.ราคา
แน่นอนว่างบเราจำกัด การเลือกที่พักสำหรับผม ราคามาเป็นอันดับ 1 , ทำการเลือกที่พักในราคาที่เรารับได้ไว้หลายๆ ที่ก่อนครับ ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็น Guest houses , Hostel หรือ Hotel
2.ดูสถานที่ตั้ง
ดูเรื่องการเดินทางครับ ว่าเดินทางสะดวกไหม อยู่ติดสถานีรถไฟ รถรางหรือรถบัสรึป่าว เป็นต้น
เรื่องสถานที่ตั้งก็ส่งผลต่อราคาที่พักพอสมควรครับ บางทีที่พักแนวประหยัดๆ อย่าง Guest houses , Hostel ถ้าสถานที่ตั้งดีๆ เดินทางสะดวก 1 เตียง อาจจะราคาเท่าโรงแรมที่ สถานที่ตั้งอาจจะอยู่ไกลกว่าหน่อย 1 ห้องเลยทีเดียว จริงๆ ก็แล้วแต่ทริปว่า เราต้องการสะดวกหรือสะบาย หรือทั้งสะดวกและสบายเลยก็ได้
วิธีการดูสถานที่ตั้งคือคลิกเข้าไปในแผนที่ ในเว็บจองโรงแรม หรือจะเอาชื่อที่พักไปค้นข้อมูลใน Google เพื่อดูข้อมูลละเอียดอีกที เผื่อเจอใครทำรีวิวไว้
3.ดูคะแนนรีวิว และความคิดเห็นของคนที่เคยเข้าพัก
ตามเว็บจองโรงแรมก็จะมีคะแนนของคนที่เคยเข้าพัก ให้คะแนนไว้อยู่แล้วครับ ปกติก็จะมีตั้งแต่ 0-10 คะแนน สำหรับผมแล้ว 6 คะแนนขึ้นก็ถือว่าผ่านแล้วครับ ถ้าราคากับที่ตั้ง ได้
4.เรื่องการชำระเงิน
ปัจจุบันในเว็บจองโรงแรมก็จะมีการชำระเงินหลายแบบ มีทั้งจ่ายเงินเลย จ่ายเงินทีหลัง(ก่อนเข้าพัก) หรือจะไปจ่าย ณ ที่พักเลยก็มี แต่ตอนที่จองผ่านเว็บเราต้องเอาเลขบัตรเดบิต หรือเครดิตใส่ไว้ก่อนครับ หากเราจองแล้วไม่เข้าพัก หรือยกเลิกตามเวลาที่เค้ากำหนด บัตรเราก็จะโดนหักเงิน
ส่วนใหญ่ผมก็จะจองแบบยกเลิกได้ฟรี และจ่ายทีหลังได้ เผื่อแผนการเดินทางเปลี่ยน จะได้ไม่ต้องเสียหายเยอะ
คร่าวๆ สิ่งที่ต้องพิจารณา สำหรับการเลือกที่พักก็มีแค่ 4 ข้อตามด้านที่ได้กล่าวไป
.
การเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเอง การจองโรงแรม การจองตั๋วเครื่องบิน
การเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเอง การจองโรงแรม การจองตั๋วเครื่องบิน
การเตรียมตัวอื่นๆ ก่อนไป
:: เช็คสภาพอากาศ
ก่อนไปต้องเช็คสภาพอากาศ ของประเทศปลายทางที่เราจะเดินทางไปก่อนนะครับ เพราะจะได้เตรียมเรื่องชุดให้เหมาะสมกับอากาศก่อนไปด้วย
.
:: การแลกเงิน
หลายๆ คนมักจะถามว่า แลกเงินไหนดี ก็จะแนะนำว่าเป็นร้านแลกเงิน จะเรทดีกว่าแลกกับธนาคาร ถ้าใครบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็แนะนำไปแลกที่ชั้นใต้ดิน ตรงสถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์ ตรงนั้นมีร้านแลกเงินเรทดีๆ หลายร้าน ส่วนสนามบินดอนเมืองนั้นยังไม่เห็นนะครับ ใครบินดอนเมืองก็แนะนำหาแลกตามร้านแลกเงินก่อนเดินทาง มีเยอะตาม สถานีรถไฟ นานา อโศก สยาม เท่าที่จำได้นะครับ
.
:: ปลั๊กไฟ
แต่ละประเทศจะมีลักษณะของหัวปลั๊กไฟที่แตกต่าง กันไป หัวกลม หัวแบน หรือปลั๊ก 3 ขา แนะนำซื้อหัวปลั๊กแบบสากล ใช้งานได้ทุกประเทศมาครับ จะได้จบในอันเดียวเลย เพราะบางทีเราไปทริปหนึงอาจจะหลายประเทศ
.
:: การใช้งานอินเตอร์เน็ตที่ต่างประเทศ
เดี๋ยวนี้การใช้งานอินเตอร์เน็ตในต่างประเทศ มีราคาที่ถูก และมีตัวเลือกให้เลือกเยอะกว่าแต่ก่อนมาก
ซึ่งตัวเลือกมี 3 แบบหลักๆ เลยคือ
1.ซื้อ SIM Net จากไทย เดี๋ยวนี้แทบทุกค่ายมือถือของไทยมี SIM Net เอาไว้ใช้งานต่างประเทศแล้วไปติดต่อซื้อที่ ศูนย์ได้เลย
2.เช่า Pocket Wifi อันนี้จะเหมาะกับคนที่มีอุปกรณ์ใช้งานหลายๆ เครื่อง แต่ไม่ค่อยเหมาะถ้าจะเอาไปใช้กับหลายๆคน เพราะเวลาเดินแยกกันหรือหลงกัน สัญญาณจะหลาย ในไทยเองก็มีหลายเจ้า
3.ซื้อ SIM Net หรือ เช่า Pocket Wifi ณ ประเทศที่เราไป ข้อนี้จะเหมาะใช้ในกรณีที่เราเดินทางไปประเทศที่ไม่มีในรายชื่อประเทศที่ SIM Net หรือ Pocket Wifi จากไทยรองรับ เช่นมัลดีฟส์ ไปซื้อ SIM Net ที่โน้นเลยจะถูกกว่าเปิดเน็ตไปจากไทยครับ
แค่มีอินเตอร์เน็ตชีวิตการเที่ยวของเราก็จะเป็นเรื่องง่ายทันที
.
:: ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับประเทศที่เราจะไป
ข้อมูลพื้นฐานที่ต้องดูไปก่อนก็เช่น ศาสนา ระบอบการปกครอง การแต่งตัว กฏสิ่งต้องห้ามต่างๆ เช่นที่ประเทศอิหร่าน การยกนิ้งโป้ง ถือว่าเป็นสิ่งที่หยาบคายไม่ควรทำ แต่ในขณะที่ไทยการยกนิ้งโป้งความหมายคือเยี่ยม หรือออกไปในทางบวก เป็นต้น
***การปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามกฏ หรือวัฒนธรรมของแต่ละประเทศที่เดินทางไปถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ
.
:: ประกันการเดินทางต่างประเทศ
เป็นสิ่งที่หลายคนละเลย แต่จริงๆ แล้วจำเป็นมากๆ บางคนอาจจะคิดว่าตัวเองยังวัยรุ่นอยู่ คงไม่เจ็บป่วยหรือเกิดอะไรขึ้นระหว่างเดินทางหรอก แต่จากข่าวที่ออกมาหลายๆ กรณี ก็มีแต่เกิดกับวัยรุ่นทั้งนั้นเลยนะครับ ดังนั้นไม่ว่าวัยไหนควรทำประกันการเดินทางทุกคนครับ เพราะค่าใช้จ่ายต่างประเทศมันแพงหากเป็นอะไรมาไม่คุ้มหรอกครับ ยอมจ่ายค่าประกันไม่กี่ร้อยดีกว่า
สุดท้าย ฝากเครื่องมือตัวช่วยการเดินทางที่ทุกคนน่าจะรู้จักดี แต่อาจจะมองข้ามไป
นั้นก็คือ การค้นหาข้อมูลด้วยตัวเองผ่าน Google ครับ
อยากรู้เรื่องอะไรก็ค้นไปเลยครับ เช่น การเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง , การเดินทางจากสนามบิน… เข้าเมือง เป็นต้น
รับรองว่ามีข้อมูลให้อ่านเพียบแน่นอน
หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ สำหรับการเริ่มต้นเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองนะครับ
การเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเอง การจองโรงแรม การจองตั๋วเครื่องบิน