เที่ยวมัลดีฟส์ กับ 16 ข้อควรรู้ ก่อนไป “มัลดีฟส์” #เอ็มพาบิน
ช่วงนี้กระแสมัลดีฟส์ เริ่มมานะครับ แต่อยากให้มาแวะอ่านสิ่งที่ควรรู้ก่อนไปซะก่อน เป็นสิ่งที่ผมอยากแชร์ จากประสบการณ์ที่เคยได้ไปมาครับ
1.คุณสามารถไปเที่ยวมัลดีฟส์แบบประหยัดๆได้ โดยการเลือกพักโรงแรมในตัวเมืองมาเล่ แล้วค่อยซื้อทัวร์แบบ One day trip ออกไปดำน้ำ ราคาประมาณ 60-70 USD
.
2.ช่วงเวลาที่เหมาะกับไปเที่ยวมัลดีฟส์คือ 4 วัน 3 คืน เพราะเราจะมีเวลาเที่ยวแบบชิลล์ๆ 2 วันเต็ม ซึ่งสำหรับผมกำลังดี ถ้าใครไป 3 วัน 2 คืน คุณจะมีเวลาเที่ยวจริงๆ แค่ 1 วันเท่านั้นครับ อีก 2 วันนี่คือวันเดินทางเลยครับ แน่นอนถ้าน้อยวันราคาก็จะถูกลง แต่หลายวันราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามลำดับครับ เที่ยวบิน และการรับส่งของโรงแรมได้ถูกจัดมาให้พอดีกับการเดินทางตั้งแต่ก้าวลงไปถึงที่สนามบินจนวันกลับครับ
.
3.มัลดีฟส์ ไปได้ทั้งปี แม้กระทั้งหน้าฝนมัลดีฟส์ ก็ยังสวยอยู่ ด้วยพื้นที่เกาะแต่ละเกาะ ที่เล็กมากกลางมหาสมุทร ทำให้เวลาฝนตกก็จะไม่ได้ตกนาน แป๊ปเดียวฝนก็เคลื่อนไปตกที่อื่น โดยที่น้ำก็ยังใสอยู่
.
4.มัลดีฟส์ เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยหมู่เกาะมากมาย แต่ที่นี่เค้าจะเรียกว่า อะทอลล์ (Atoll) ของเรียกว่าเกาะแล้วกันนะครับ 1 รีสอร์ทก็จะยึดพื้นที่กันคนละ เกาะเลย
.
5.บางเกาะมีพื้นที่เล็กกว่าสนามฟุตบอลซะอีก แต่สามารถสร้างที่พักยื่นไปในน้ำได้เป็นสิบๆ ห้อง
.
6.ไปมัลดีฟส์ ไปเองได้เลย ไม่ต้องใช้ทัวร์ เพราะถ้าคุณซื้อแพ็คเกจที่พักแล้ว เค้าก็จะมีคนคอยมารับและส่งคุณตั้งแต่สนามบิน จนไปถึงที่พัก ไม่มีอะไรต้องกังวล
.
7.ไปช่วงไหนดี High หรือ Low season
High กับ Low season ความสวยไม่ได้ต่างกันมาก แต่ราคาต่างกันมาก(เสียงสูง) ช่วงHigh ส่วนใหญ่จากที่พูกคุยกับพนักงานจะเป็นนักท่องเที่ยวทางฝั่งยุโรปมาเที่ยว เค้าจะหนีหนาวจากฝั่งนั้นมา จองห้องพักกันไว้เป็นเดือนๆ เลยโดยเฉพาะคนที่ชอบดำน้ำ
ส่วนช่วง Low season ช่วงนี้จะเห็นคนเอเชียคนไทยไปกันเยอะ เพราะเป็นช่วงที่ราคาถือว่าเอื้อมถึง แต่ทะเลก็ยังสวยอยู่ครับ
.
8.มัลดีฟส์ ไม่ใช่จองตั๋ว และที่พักแล้ว จบ
สิ่งที่คุณต้องพิจารณาเพิ่มจากที่เพจต่างๆ เอาราคามาล่อคุณก็คือ การเดินทางจากสนามบินไปที่พัก ถ้าเกาะที่พักอยู่ไม่ไกลมากก็เดินทางโดย speed boat ราคาไปกลับก็ประมาณ 4-8 พันบาท
แต่ถ้าที่พักอยู่ไกล ต้องเดินทางด้วย Sea Plan อันนี้ตัวแพงเลย ไปกลับประมาณ 11000 บาทขึ้นไป(แต่ก็ควรลองซักครั้ง เพราะจะได้เห็นวิวระหว่างทางที่สวยมากๆ)
.
9.คุณสามารถว่ายน้ำร่วมกับปลาฉลามไที่มัลดีฟส์
ระหว่างที่ดำน้ำอยู่บริเวณชายหาด หรือหลังที่พัก คุณอาจจะเห็นฉลามตัวใหญ่กว่าคุณว่ายมาหากินบริเวณแถวนั้น คนก็ดำน้ำไป ฉลามก็ว่ายไป (ยอมรับว่าส่วนตัวเห็นตอนแรกตกใจมาก 555)
แต่พนักงานบอกว่า ฉลามที่ว่ายมาบริเวณน้ำตื้นจะไม่ใช่ฉลามที่ดุ ไม่ทำร้ายคน แต่อย่าไปแหย่มัน ให้ทำเป็นไม่เห็น
.
10.ถ้าคุณกำลังหาแพ็คแกจที่พักคุณอาจจะเห็น แพ็คเกจ Half Board , Full Board หรือ All Inclusive มันคืออะไรนะ
– Half Board คือที่พักรวมอาหารเช้า และเย็น หรือบางที่ก็เลือกได้ว่าจะเช้า และกลางวัน ก็ได้ (ไม่รวมค่าเครื่องดื่ม)
– Full Board คือที่พักรวมค่าอาหารเช้า กลางวัน เย็น (ไม่รวมค่าเครื่องดื่ม)
***มื้อเช้าจะมีพวกน้ำส้ม นม อะไรพวกนี้อยู่แล้ว ทำให้ถึงเลือก Half Board หรือ Full Board ก็จะไม่ต้องซื้อน้ำเพิ่มครับ
– All Inclusive คือที่พักรวมค่าอาหารเช้า กลางวัน เย็น และรวมเครื่องดื่มหลายอย่าง ทั้งแอลกอฮอล์ด้วย ถ้าเลือกแบบนี้ก็เดินกินไปเถอะครับ ทั้งวัน
.
11.ถ้าคุณซื้อแพ็คเกจไปเที่ยวมัลดีฟส์ คุณอาจจะเห็ว่าราคามันสูงมาก แต่มันจ่ายครั้งเดียวจบนะครับ โดยเฉพาะคนที่ซื้อแบบ All Inclusive ไปโน้นไม่ต้องใช้ตังค์ครับ ไปถึงโน้นก็เหมือนโดนพาไปปล่อยเกาะ นอน กิน เล่นน้ำได้ทั้งวัน
.
12.มัลดีฟส์สามารถใช้เงิน USD ได้เลย
แนะนำว่าคุณควรแลกเป็นแบงค์ย่อยๆ ไปด้วย เพื่อไว้ให้ทิปพนักงาน แต่ให้เป็นเงินไทยก็ได้นะครับ เห็นพนักงานหลายคนเค้าก็บอกว่ามาเที่ยวเมืองไทยเรื่อยๆ เหมือนกัน
.
13.เวลาช้ากว่าไทย 2 ชั่วโมง และคนที่นี่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี
.
14.ตอนนี้มี 2 สายการบินที่บินตรงจากไทยไปมัลดีฟส์ คือ Bangkok Airway และ Air Asia แนะนำว่าถ้าเจอตั๋วถูกให้จองไว้ก่อน แล้วค่อยหาจองแพ็คเกจที่พัก
.
15.พนักงานที่นี่อาจจะดูนิ่งๆ แต่ที่จริงส่วนใหญ่ใจดีครับ
.
16.สุดท้ายส่วนตัวผมคิดว่า มัลดีฟส์ เป็นประเทศที่เหมาะกับการไปเที่ยวแบบจัดเต็ม ไปทั้งทีก็นอนกลางน้ำ แบบ All Inclusive กันไปเลย แล้วคุณจะรู้ว่า นี่แหละ มันคือการมาเที่ยวมัลดีฟส์ อย่างแท้จริง
http://www.mprabin.com/2016/07/28/maldives01/
http://www.mprabin.com/2018/01/21/maldives2017/