เที่ยวอีสตันบลู ตุรกี Istanbul Turkey ดินแดน 2 ทวีป :
สวัสดีคร๊าบ ได้มาซักทีสำหรับเมืองอีสตันบลู ตุรกี ที่เค้าบอกว่าเป็นดินแดน 2 ทวีป(เอเชีย และยุโรป) ได้ยินชื่อมานานในที่สุดก็ได้มา มาครั้งแรกก็จะแอบตื่นเต้นเป็นพิเศษ และหนึ่งความดีงามของที่ตุรกีคือ คนไทยเข้าตุรกีได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า และโดยรวมที่ผมไปเที่ยวมาส่วนตัวก็รู้สึกชอบเลยทีเดียว เพราะของราคาไม่แพงนะ บางอย่างก็ถูกกว่าไทยมากๆ เลย เช่นค่ารถไฟฟ้าที่นี่ ถูกมาก สถานที่ท่องเที่ยวเองก็มีความน่าสนใจ สวยๆ มีประวัติศาสตร์น่าสนใจ
ซึ่งทริปนี้เป็นทริปลุยเดี่ยวเที่ยวตุรกีครับ จริงๆ เรียกว่าเป็นทริปเที่ยวยุโรปดีกว่า แต่พอดีบินกับ TURKISH AIRLINES ไปยุโปรมันต้องแวะต่อเครื่องที่ตุรกีอยู่แล้ว ก็เลยทำตั๋ว Stopover แวะเที่ยวขากลับที่ตุรกี 6 วัน ซึ่งจ่ายเพิ่มจากตั๋วไปกลับยุโรปประมาณ 3 พันบาทเอง โดยถ้าจองไปกลับยุโรปผมจะได้ราคาโปร 15XXX บาท แต่ถ้าทำ Stopover ขากลับ ราคาตั๋วจะเพิ่มเป็น 18XXX บาท ส่วนตัวมองว่าราคานี้คุ้มมาก จ่ายเพิ่ม 3 พันบาทได้เที่ยวตุรกีเพิ่ม เพราะถ้าจองตั๋วมาตุรกีโดยตรงนี่ก็ต้องหมื่นบาทอัพแน่นอน
ผมเดินทางเที่ยวตุรกีช่วง 11-16 มิ.ย. 2562
โดยแบ่งเป็น
11-14 มิ.ย. 2562 ไปขึ้นบอลลูนและเที่ยวที่เมือง คัปปาโดเกีย Cappadocia
คลิกอ่าน>>รีวิวลุยเดี่ยว พาไปขึ้นบอลลูน ที่ตุรกี ณ เมืองคัปปาโดเกีย Cappadocia
14-16 มิ.ย. 2562 เที่ยวเมืองอิสตันบูล Istanbul
สำหรับรีวิวนี้ ก็จะเป็นรีวิวเที่ยวเมืองอิสตันบูล Istanbul นั่นเองครับ มีเวลา 3 วัน 2 คืน ก็เที่ยวได้สบายๆ และเก็บที่เที่ยวได้ค่อนข้างเยอะ
อันตรายไหม หรือน่ากลัวไหม?
จากที่ได้ไปเที่ยวมา ไม่ได้รู้สึกว่าเมืองนี้อัตรายอะไรมาก ผมก็เที่ยวได้แบบชิลล์ๆ ไม่ได้เที่ยวแบบรู้สึกว่ากลัวหรืออะไร หรือผมอาจจะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของโจรหรือมิจฉาชีพก็ไม่รู้ครับ 555 เอาเป็นว่าใครจะมาเที่ยวก็ระวังทรัพย์สินของตัวเองไว้ด้วย เพราะหลายที่ท่องเที่ยวคนค่อนข้างแน่น
ค่าเงิน 1 ลีลาตุรกี(TRY) จะประมาณ 6 บาท
เวลา ช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมง
เริ่มต้นการเดินทาง
เริ่มเล่าการเดินทางเมื่อบินมาถึงที่สนามบิน อีสตันบลูนะครับ เพื่อนๆ สามารถดูการเดินทางก่อนหน้าได้ตามลิงค์ด้านล่าง ผมได้ทำรีวิวแยกไว้ให้แล้วครับ
1.รีวิว Turkish Airlines ไปอิสตันบูล ,ตุรกี พร้อมวิธีการเดินทางเข้าเมือง <<คลิก
2.รีวิวลุยเดี่ยว พาไปขึ้นบอลลูน ที่ตุรกี ณ เมืองคัปปาโดเกีย Cappadocia <<คลิก
การเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองอีสตันบลู
ด้วยความที่เป็นสนามบินใหม่ การเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง ตอนนี้มีตัวเลือกแค่ แท๊กซี่กับ รถบัส สำหรับการเดินทางขนส่งสาธารณะ นะครับ ตอนนี้ยังไม่มีรถไฟ ซึ่งอนาคตคิดว่าน่าจะมีรถไฟ
ข้อมูลบริษัทรถบัสที่ให้บริการรับส่ง ระหว่างเมือง – สนามบิน
สามารถเข้าไป จองตั๋ว ดูจุดจอดรถบัส เส้นทางที่ให้บริการได้ ที่เว็บไซต์นี้ครับ >>คลิก<<
รับกระเป๋าออกมาเสร็จก็เดินตามป้าย BUS ได้เลย ซึ่งก็แนะนำให้ใช้บริการรถบัสนะครับ เพราะราคาไม่แพง
แนะนำซื้อบัตร istanbulkart เป็นบัตรเติมเงินเอาไว้ใช้ขึ้นขนส่งสาธารณะต่างๆ ในเมืองอีสตันบลู รวมไปถึงรถบัสไปกลับสนามบิน ได้ด้วยเช่นกัน
โดยบัตรจะราคา 6 ลีลาตุรกี และเราจะเติมเงินเข้าไปเท่าไรก็เติมได้เลย
ค่าเงิน 1 ลีราตุรี(TRY) = 6 บาทไทย(THB) โดยประมาณ
Istanbul metro map แนะนำว่าให้โหลดแอ๊พใส่มือถือไว้เลยนะครับ จะได้แผนที่อัพเดทที่สุดครับ
********************************************************************************************
Suite Dreams Istanbul Hostel
ออกจากสนามบินก็ตรงเข้าที่พักเลย ซึ่งที่พักทริปนี้ผมพักแถวๆ ย่าน Taksim ซึ่งสามารถนั่งรถบัสจากสนามบินตรงมาที่ย่านนี้ได้เลย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงโดยประมาณ จากนนั้นก็เดินเข้าที่พักต่อ แอบเหนื่อยเหมือนกันครับเพราะถนนแถวนี้มันไม่เรียบ และบางช่วงเป็นเนิน
สำหรับห้องพัก ผมจองเป็นห้องนอนรวม 10 เตียง นอนที่นี่ 2 คืน ได้มาคืนละ 10 ยูโร หรือประมาณ 350 บาทต่อคืน โดยรวมที่พักถือว่าโอเคเลย พนักงานก็ให้ความช่วยเหลือดี มีล๊อคเกอร์ มีกุญแจไว้ให้ล๊อคของ เตียงมีผ้าม่านปิด ทำให้มีความเป็นส่วนตัว แม้จะนอนห้องรวม
Taksim Square
ย่านทักซิมสแควร์ ย่านที่ผมพักเลย ก็พึ่งมารู้ตอนมานี่ละครับ นี่เราพักย่านดัง ย่านช๊อปปิ้งของเมืองอีสตันบลูเลยทีเดียวนะ เดินมาจากที่พักได้เลย การเดินทางต่างๆ สะดวกครับ
ย่านนี้ก็มีทั้งสวนสาธารณะ ร้านค้าต่างๆ มากมายทั้งแบรนด์เนมและไม่แบรนด์เนม
มีอนุสาวรีย์แบบนี้อยู่กลางย่านเลย
เส้นนี้จะเป็นถนนเส้นหลักสายช๊ออปิ้งเลย ร้านค้ารานอาหารเพียบ คนแน่นมาก เดินๆ ก็ระวังทรัพย์สินกันด้วยนะครับ
ย่านนี้จะเป็นสถานีต้นทางของรถไฟสายเก่าแก่ ที่ยังอนุรักษ์ไว้เพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งสามารถขึ้นได้จริงๆนะครับ
ถ้าตามแผนที่ จะคือสาย NT : Historic tramway เป็นสายสั้นๆ ครับให้บริการ 5 สถานี
ซึ่งการเดินทางท่องเที่ยวหลักๆ ในเมืองผมก็จะใช้บริการรถไฟ Metro เป็นหลัก ซึ่งสัญลักษณ์ของ Metro ก็จะตามรูปด้านล่างเลย
ค่ารถไฟ Metro ที่นี่ถูกมากก
ซึ่ง มันจะเป็นแบบนี้ครับ ถ้าเราแตะบัตรครั้งแรกมันจะตัดเงินไปประมาณ 2.60 ลีลา / เที่ยว (ประมาณ 15 บาท)และมันจะถูกลงเรื่อยๆ ยิ่งวันนั้นเดินทางหลายๆ รอบก็จะถูกลง บางรอบลงมาเหลือ 1 ลีลา คือประมาณ 6 บาท คือถูกมากกก โดยระบบจะเป็นวันต่อวันนะครับ มาเที่ยวที่นี่ก็รู้สึกว่าไม่หนักค่าเดินทางเลย
หอคอยกาลาต้า (Galata Tower)
พามาขึ้นหอคอยก่อนเลยครับสำหรับที่เที่ยวที่แรก มาถึงแล้วอยากเห็นวิวมุมสูงของเมืองก่อน และที่นี่ก็ใกล้ๆ กับย่านที่พักผมด้วยนั่งรถไฟมาแค่สถานีเดียว
Galata Tower ถืแเป็นสถานที่เก่าแก่ มีชื่อเสียงและค่อนข้างสำคัญมาก สำหรับเมืองอีสตันบลู ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1348
ค่าเข้าชม : 35 TL (ประมาณ 210บาท)
เวลาเปิด : 08:00 – 20:00
การเดินทาง : นั่ง Metro สาย M2 มาลงที่สถานี Sishane แล้วเดินต่ออีกไม่ไกล
เดินออกจากเมโทรมาก็จะเริ่มมองเห็นตัวหอคอยละครับ เดินตามไปได้เลย
มาถึงก็มารอต่อคิวซื้อบัตรเพื่อขึ้นชมด้านบนหอคอยได้เลย ก็รอคิวประมาณครึ่งชั่วโมงครับ
จะมีลิฟท์ พาขึ้นไปด้านบนนะครับ ซึ่งด้านบนก็จะมีร้านอาหาร คาเฟ่ ด้วย
มองจากบนหอคอยเห็นวิวด้านล่างก็จะประมาณนี้
มองวิวจากด้านบนคือสวยมาก วันนี้อากาศค่อนข้างดี มาช่วงแสงยามเย็น จริงๆ ก็ไม่เย็นละนะครับ จะ 2 ทุ่มละ
มุมนี้ก็จะมองเห็น Galata Bridge ด้วย
ที่หอคอยจะมีเครื่องเล่น 3D ที่เหมือนจะจำลองเรื่องราวว่า พาเราขึ้นเฮลิคอปเตอร์ บินไปชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของเมืองอีสตันบลู ตรงนี้ต้องจ่ายเพิ่ม 15 TL นะครับ ถ้าใครจะเล่น
บริเวณทางเดินมา Galata Tower ก็จะมีร้านค้า เยอะเลยนะครับ เรียกว่าเป็นย่านนักท่องเที่ยวมาเลย ซึ่งผมก็มาหาแลกเงินแถวนี้ละครับ
ผมก็ทำการเดินจาก Galata Tower ลงมาที่ ช่องแคบบอสฟอรัส ( Bosphorus ) ซึ่งไม่ไกลกันประมาณ 900 เมตรครับ ถือว่าเดินชมวิวเมืองชิลล์ๆ ไปด้วย
ช่วงที่มาก็จะสามทุมแล้วครับ มาหน้าร้อนก็จะมืดช้าหน่อย แต่ก็ดีที่ทำให้มีเวลาเที่ยวเยอะ
บรรยากาศยามเย็นก็จะชิลล์มาก คนแถวนี้ก็ออกมานั่งรับลม ชมวิว มานั่งตรงจุดแบ่งระหว่าง 2 ทวีป
บรรยากาศเริ่มมืดแล้ว เดี๋ยวกลับที่พักกันดีกว่าครับ
จะมีสถานีรถไฟ Halic ที่อยู่บนสะพานใกล้ๆ พอดี เดินมาแป๊ปเดียวครับนั่งตรงไปที่ย่าน Taksim Square ได้เลย
จอที่รูปด้านล่าง 1 dk นั่นคือเวลานะครับ อีก 1 นาทีรถไฟจะมา
กลับมาถึงย่าน Taksim Square ก็มาหาข้าวกิน เดินแถวนี้อีกนิดหน่อยแล้วก็กลับที่พักนอนครับ
15 มิ.ย. 2562
วันที่ 2 ณ เมืองอีสตันบลู วันนี้จะไปเก็บสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์หลายๆ ที่เลย ซึ่งต้องบอกก่อนว่า วันนี้เป็นวันเสาร์หลายๆ ที่ท่องเที่ยวจึงมีคิวยาวมาก ทำให้วันนี้หลายๆ ที่ได้แค่เยี่ยมชมภายนอก
อ้อ และสำหรับใครที่จะมาเที่ยวเมืองอีสตันบลูแบบจริงจัง ชอบแนวพิพิธภัณฑ์ การเข้าชมมัสยิด หรือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ก็แนะนำให้ซื้อเป็น Istanbul Museum Pass จะคุ้มมากๆ
การเดินทางวันนี้ก็รถไฟฟ้า รถรางเป็นหลักครับ สะดวกสบาย
มัสยิดสุลต่านอาห์เมต หรือ มัสยิดสีฟ้า ( Blue Mosque )
มัสยิดสีฟ้า หรือ Blue Mosque เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องมาของเมืองอีสตันบลูเลย มัสยิดใหญ่โต โดดเด่นมาก นักท่องเที่ยวเยอะตลอดสำหรับที่นี่ สามารถเข้าชมด้านในได้ มีค่าเข้าครับ และใครจะมาที่นี่ ต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยนะครับ
เวลาเปิด-ปิด : 8.30 -16.45น.
วิธีการเดินทาง : ขึ้นรถราง tram ลงสถานี Sultanahmet
บริเวณด้านหน้าจะมี สวนจตุรัส Sultanahmet ตรงกลางนี้เราจะสามารภมองเห็นได้ทั้ง Blue Mosque และ Hya Sofya
บรรยากาศบริเวณโดยรอบ
ผู้ที่จะเข้าชมด้านใน ต้องแต่งตัวมาให้เรียบร้อย ตามระเบียบ
จตุรัสด่านอาห์เมต Sultanahmed Complex
จตุรัสด่านอาห์เมต จะอยู่ด้านข้างของมัสยิดสีฟ้า ที่นี่เคยเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองในยุคไบแซนไทน์ แต่ก่อนใช้เป็นลานกว้างสำหรับแข่งกีฬา และเป็นลานแข่งม้า ปัจจุบันเหลืออนุสาวรีย์อยู่ 3 ชิ้น คือ เสา 3 ต้น ตามรูปเลย
บริเวณด้านล่างของเสาจะมีแกะสลักลวดลาย
น้ำพุไกเซอร์ (Kaiser fountain) เป็นของขวัญที่จักรพรรดิวิลเลี่ยมที่ 2 แห่งเยอรมนี พระราชทานแก่สุลต่านอับดุลฮามิทที่ 2 เมื่อรั้งเสด็จเยือนตุรกี
แถวนี้ก็จะมีขนมปังซึ่งไม่ชัวร์ว่าชื่อว่าอะไร แต่มีขายอยู่ทั่วไปในเมืองอีสตันบูล
วิหารเซนต์โซเฟีย หรือ อยา โซเฟีย (Aya Sofya)
หรือที่รู้จักกันในชื่อวิหาร Hagia Sophia วิหารแห่งนี้เคยเป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง ที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,500ปี จะอยู่ตรงข้ามกับ มัสยิดสีฟ้า เลยครับ บริเวณเดียวกัน เดินถึงกันได้
เวลาเปิด : 9:00–17:00
วิธีการเดินทาง : ขึ้นรถราง tram ลงสถานี Sultanahmet
จากนั้นผมทำการเดิน จาก วิหารเซนต์โซเฟีย เพื่อไปยังพระราชวังทอปคาปิ ( Topkapi Palace)
พระราชวังทอปคาปิ ( Topkapi Palace)
ในอดีต พระราชวังทอปกาปี (Topkapi Saraiy) Saraiy) เป็นที่ประทับของสุลต่านนานกว่า 3 ศตวรรษ แต่ปัจจุบันพระราชวังทอปกาปี กลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเมื่อปี ค.ศ. 1924 แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ พระราชวังชั้นนอก, พระราชวังชั้นใน และฮาเร็ม
วันนี้คนค่อนข้างเยอะเช่นกัน ก็เลยไม่ได้เข้าไปด้านใน แต่ดูรีวิวมาแล้วก็พอรู้ว่าด้านในเป็นยังไง เดี๋ยวครั้งหน้ามีโอกาส ค่อยมาใหม่
เปิด 9.00 – 18.45 น. ช่วงหน้าหนาวจะปิดประมาณ 16.45 น.
วิธีการเดินทาง : ขึ้นรถราง tram ลงสถานี Gülhane istasyonu
เดี๋ยวพานั่งรถรางต่อไปที่ บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ( Bosphorus )
ผมนั่งรถรางมาที่สถานี Sirkeci İstasyonu แล้วเดินหาข้าวกินก่อนครับ จากนั้นค่อนเดินไปที่แถวๆ ท่าเรือบริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ( Bosphorus )
ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส ( Bosphorus )
อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยคือการมาล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส ( Bosphorus ) ช่องแคบที่เป็นเส้นแบ่งทวีปเอเชียและยุโรป ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองอีสตันบลู ตุรกีนี่เองละครับ
มาถึงบริเวณท่าเรือ ผมก็ไปติดต่อหาซื้อทัวร์ ก็จะมีขายหลายเจ้านะครับ ผมเลือกซื้อกับทัวร์เจ้าใหญ่ ราคา 20 ยูโร จะใช้เวลาล่องประมาณ 2 ชั่วโมง
ผมจองได้รอบ 14.30 ครับ เมื่อถึงเวลานัดหมายทัวร์ก็จะพาเราไปขึ้นเรือ บริเวณท่าเรือใกล้ๆ
ก็จะมีไกด์ ที่คอยแนะนำ อธิบายต่างๆ ให้พวกเราตลอดทาง
จากนั้นก็ล่องเรือชมบรรยากาศกันเลย
ล่องไปไกลพอสมควรครับ
ระหว่างทางก็จะมองเห็น พระราชวัง Dolmabache และ มัสยิด Dolbamache
รูปด้านล่างไกด์บอกว่าย่านนี้ย่านคนรวย
Maiden’s Tower เป็นหอคอยเล็กที่ถูกสร้าง อยู่บนเกาะกลางทะเลเล็กๆ
ตลาดแกรนด์บาซาร์ (Grand Bazaar)
พลาดไม่ได้เลย ไปเมืองไหน สำหรับผมแล้วต้องไปเดินตลาด เพราะจะได้เห็นข้าวของว่าเค้าขายเค้าใช้อะไรกัน และที่นี่ก็ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเลยทีเดียว
ตอนผมมานี่ก็ช่วงตลาดใกล้จะปิดแล้วครับ ดีที่มาทันเพราะวันที่มาเป็นวันเสาร์และวันอาทิตย์ ที่นี่ปิด เกือบไม่ได้มาชมตลาดซะละ
เปิด:09:00 – 19:00
วันหยุด : วันอาทิตย์
การเดินทาง : รถรางสาย T1 ลงสถานี Beyazıt
ของขายที่นี่ก็หลากหลายครับ พ่อค้าส่วนใหญ่เป็นเด็กหนุ่ม วันรุ่น เข้าใจว่าเป็นลูกจ้างของร้าน
ใครจะซื้ออะไรก็ลองแวะต่อราคากันด้วยนะครับ
จุดชมวิวที่สถานีรถไฟ Haliç (สายM2)
นั่งรถไฟผ่านได้มาเห็นว่ามันมีสถานีอยู่ตรงกลางสะพาน ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ดีมากๆ ก็เลยไม่พลาดที่จะแวะมาชมบรรยากาศและแวะถ่ายรูป
ตรงนี้ก็จะมองเห็นวิวทั้งฝั่งทวีปยุโรปและเอเชีย
16 มิ.ย. 2562
เที่ยววันสุดท้ายแล้ว เป็นวันสุดท้ายของทริป และวันสุดท้ายที่เมืองอีสตันบลู วันนี้มีบินกลับไฟล์ทค่ำๆ ครับ วันนี้ออกจากที่พักสายๆ เช็คเอาท์และฝากกระเป๋าไว้ จากนั้นออกมาหาข้าวกินแถวๆ Taksim Square ซึ่งผมมากินร้านนี้ 2 วันติดเลย อร่อยมาก
วันนี้ก็เดี๋ยวจะเก็บที่เที่ยวอีกซักที่ แล้วก็จะไปสนามบินเลยครับ
Basilica Cistern
Basilica Cistern หรือ Yerebatan Sarayi ในภาษาตุรกี เป็นอุโมงค์เก็บน้ำโบราณที่ใหญ่ที่สุดในหลายร้อยแห่งตั้งอยู่ใต้เมืองอิสตันบูลประเทศตุรกี
เป็นอีกหนึ่งที่ๆ ผมอยากมาดูครับว่าสมัยโบราณเมื่อกว่า 1500 ปี เค้าได้มีการสร้างระบบส่งน้ำ กักเก็บน้ำใต้ดินขึ้นแล้ว
เปิด : 9.00 – 17.30
วิธีการเดินทาง : ขึ้นรถราง tram ลงสถานี Sultanahmet
ด้านในก็จะเป็นเสา อุโมงค์ประมาณนี้
ก่อนกลับที่พักไปเอากระเป๋า แวะหาอะไรกินก่อนไปสนามบิน
กินข้าวเสร็จผมก็นั่งรถบัสจาก Taksim Square ตรงยาวมาที่สนามบินเลย
Istanbul – Bangkok on Sunday 16 Jun 2019
ไฟล์ทขากลับ
การเดินทางไฟล์ทขากลับกันเลยครับ ขากลับนี่จะบินตรงไปลงกรุงเทพเลยครับ การบริการต่างๆ รวมทั้งเครื่องก็ไม่ได้ต่างจากไฟล์ทที่ออกจากภูเก็ตเลย แต่ที่ต่างคือไฟล์ทไปกรุงเทพนี้คนจะแน่นมาก
รายละเอียดไฟล์ท
-TK0064
-AIRBUS A330-300
-8.15 PM Istanbul (Turkey)-9:50 AM Bangkok (Thailand)
-บินตรงยาวๆ กัน 9.35 ชั่วโมง
กลับถึงไทยโดยปลอดภัย เป็นอันจบรีวิวการเดินทางพาเที่ยวเมืองอีสตันบลูตุรกี
ก็เป็นอีกเมืองที่รู้สึกประทับใจสำหรับการไปเยือน ที่เที่ยวน่าสนใจและของก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิด
ค่าเดินทางต่างๆ ค่อนข้างถูก ใครมีโอกาสก็ลองแวะไปเที่ยวกันนะครับ
รีวิวอื่นๆ
1.รีวิวเที่ยว มาชูปิกชู MACHU PICCHU : ตอนจบ เที่ยวเมืองคุสโก้ (Cusco) และเดินทางกลับ
2.รีวิวขับรถพาแม่เที่ยวกระบี่ แนวธรรมชาติ 3 วัน 2 คืน พร้อมแจกแผนการเดินทาง
3.รีวิวเที่ยวฮานอย ฮาลองเบย์ เวียดนาม 5 วัน 4 คืน กำเงินไป 4000 บาท ก็เที่ยวได้

เข้ากลุ่ม “ยุโรปไม่ไกลเกินฝัน เที่ยวด้วยตัวเองได้ง่ายๆ”
เพื่อ พูด คุย แลกเปลี่ยนข้อมูล การท่องเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองครับ
>>คลิกที่นี่<< หรือ สะแกน QR Code ด้านล่างได้เลย