เดินทางมาถึงเมืองลิสบอน เมืองหลวงของประเทศโปรตุเกส (Lisbon , Portugal) แล้วครับสำหรับทริปเที่ยวยุโรปรอบนี้ เมืองลิสบอน Lisbon เป็นเมืองที่ผมอยากมามาก เห็นรูป เห็นบรรยากาศเมืองแล้ว บอกเลยว่าต้องมาเมืองนี้ให้ได้ และทริปนี้มาสเปนด้วย ก็เลยไม่พลาดที่จะเอา ประเทศโปรตุเกส มาลงทริปด้วย เราเที่ยวกันอยู่ 2 เมืองครับ อีกเมืองคือปอร์โต้ Porto เป็น 1 ใน 3 เมืองหลักของ โปรตุเกส เลย สวยมากกก แต่เดี๋ยวขอพูดถึงในรีวิวถัดไป
เราเที่ยวอยู่กันที่ เมืองลิสบอน Lisbon กัน 3 วัน 2 คืนครับ ถ้าใครจะเที่ยวเมืองนี้ต้องให้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 วันนะ เพราะที่เที่ยวเยอะพอสมควรและมีหลายย่านที่น่าสนใจ ผมว่า 4 วันกำลังดีครับ
ข้อมูลคร่าวๆ ที่ทราบเกี่ยวกับเมืองนี้คือ เมืองสวย ค่าเดินทางถูก ทาร์ตไข่ ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด ขนมอะไรที่ทำจากไข่คือมีต้นกำเนิดมาจาก โปรตุเกส นี่ละครับ
สมัยก่อน โปรตุเกส ก็เป็นอีกประเทศที่ออกเรือไปสำรวจโลก ล่าอาณานิคม ทำให้ เมืองลิสบอน Lisbon ก็จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินเรืออยู่ด้วย ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
เดี๋ยวไปตามรีวิวพร้อมๆ กันเลยครับ

ฝากติดตามรีวิวก่อนหน้าได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
รีวิวเที่ยวบาร์เซโลน่า BARCELONA กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยว ห้ามพลาด!!
รีวิวเที่ยวปารีส กับก๊วนเพื่อน 6 วัน 5 คืน ปี 2020

Flight VY8462 : 12.15 Barcelona (T1) -13.15 Lisbon (T1)
ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง(เวลาลิสบอนช้ากว่า บาร์เซโลน่า 1 ชั่วโมง) เราซื้อตั๋วมาได้ราคาประมาณ 1700 บาท/คน รวมน้ำหนักกระเป๋า 25 กิโลและเลือกที่นั่งครับ ก็ถือว่าไม่แพงนะ สายการบินนี้โดยรวมก็โอเคมากๆ
การเดินทางจากสนามบินลิสบอนเข้าเมือง
เมืองนี้ค่าเดินทางถูกนะครับ จากสนามบินมีทั้งรถบัส รถไฟ ค่าเดินทางเห็นว่าไม่เกิน 3 ยูโรต่อคน และเมืองนี้มี Uber ด้วย ใครชอบสะดวกเรียก Uber น่าจะสะดวกและชัวร์เรื่องราคา
แต่ที่ห้ามเลยคือแท๊กซี่ห้ามขึ้น ถ้าไม่จำเป็น เดี๋ยวเล่าต่อด้านล่าง

แต่ด้วยความที่มองดูตรงจุดรอแท๊กซี่ คนก็ใช้บริการเยอะนี่หว่า งั้นไปแท๊กซี่ก็ได้ น่าจะแพงกว่ากันไม่มากมั้ง

เราพักที่ No Limit Hostel Lisbon รูปด้านบนคือหน้าที่พักของพวกเรา เป็นที่พักราคาประหยัดครับ เราจองเป็นห้องส่วนตัวนอน 2 คน 2 ห้อง นอนที่นี่กัน 2 คืนครับ จ่ายกันคนละ 730 บาทเอง โดยรวมที่พักก็ถือว่าพอใช้ครับ แต่ถ้าเน้นถูก ที่นี่ก็ตอบโจทย์ครับ

การเดินทางในเมืองลิสบอน
เราใช้บริการรถไฟใต้ดิน และรถรางเป็นหลักครับ ซึ่งเป็นการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากของผู้คนในเมืองนี้ มาที่นี่ก็โหลดแอ๊พ Lisbon Metro Map ใส่มือถือไว้เลย
บัตรเดินทางก็มีทั้งแบบรายเที่ยว และแบบเหมา 24 , 48 , 72 ชั่วโมงเป็นต้น ซื้อแบบเหมาก็คุ้มดีครับ สามารถใช้ขึ้นขนส่งสาธารณะของเมืองได้ทุกประเภทเลย
การเดิน : หลายที่เที่ยวเดินถึงกันได้ แต่ต้องระวังดีๆ เพราะเมืองนี้สร้างเมืองกันบนเนินเขา บางทีค้น Map บอกว่า 800 เมตร เราอาจจะคิดว่าแค่นี้สบายๆ แต่ถ้าเป็น 800 เมตร ที่เดินขึ้นเขาละก็ บอกเลยว่าหอบครับ

ซึ่งสถานีใกล้ๆที่พักเรา ที่เราใช้เดินทางตลอดคือ Anjos สายสีเขียว

นั่งรถไฟใต้ดินสายสีเขียวมาลงที่สถานี Rossio

เดี๋ยวเราจะพาไปหาข้าวกินกันก่อนครับ หิวกันมาก จะบ่ายสามแล้วข้าวเที่ยงยังไม่ได้กิน

การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสายสีเขียวมาลงที่สถานี Rossio แล้วเปิด แผนที่เดินตามได้เลย

ที่นี่มีค่าขึ้นนะครับ แต่พวกเราไม่ได้ขึ้น เดี๋ยวพาไปจุดชมวิวอีกจุดที่ขึ้นฟรี

ตอนนั้นดูพิกัดจากจุดที่เราอยู่ประมาณ 900 เมตร แค่นี้เดินสบายๆ ที่ไหนได้ขึ้นเขา แทบแย่เลย 555

แต่ตรงด้านหน้าก็มีรถรางสาย 24E ที่สามารถขึ้นมาได้เหมือนกัน

ตรงนี้จริงๆ แล้วก็เป็นสวนสาธารณะ ที่มันอยู่บนเขา มันก็เลยกลายเป็นจุดชมวิวมุมสูงของเมืองโดยปริยาย
ช่วงเย็นๆ คนมาเยอะเลยครับ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกเลยตรงนี้



การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสายสีเขียวมาลงที่สถานี Rossio


ผมไปนอนโรงบาล 8 ชั่วโมงเลยครับ รอดูอาการ พอดีขึ้นแล้วถึงได้กลับ ดีนะที่มีประกันเดินทางอยู่แล้ว ไม่งั้นคงต้องกังวลแน่ๆ ว่าต้องจ่ายเท่าไร แต่ก็ไม่แพงครับ ประมาณ 5 พันบาท ที่จ่ายไป เบิกประกันคืนได้ทั้งหมด
วันที่ 2
วันนี้กว่าจะออกเที่ยวก็บ่ายๆ เลยครับ ช่วงเช้านี่คือพักผ่อนเลย แต่ตอนบ่ายๆ ก็ดีขึ้นเป็นปกติ เดี๋ยววันนี้จะพาออกไปเที่ยวโซนนอกเมืองครับ แต่ออกไปไม่ไกล
3 ที่เที่ยวแรกที่ผมพาไปวันนี้ สามารถเดินถึงกันได้ แนะนำนั่งรถรางไปลงที่ Belém Tower ก่อนแล้วค่อยเดินเที่ยวย้อนมาจบที่ ร้านทาร์ตไข่ Pastéis de Belém

หอคอยเบเล็ม เป็นจุดเริ่มต้นของการออกไปเดินเรือของคนสมัยก่อน ทั้งเป็นเหมือนหอสังเกตการณ์ การเดินทางทางเรือ ซึ่งเมื่อก่อนจะตั้งอยู่กลางทะเลเลย แต่เวลาผ่านไปกระแสน้ำเปลี่ยนพัดพาตะกอนดินมา จนทำให้เกิด
การเดินทาง : นั่งรถรางสาย 15E มาลงที่ สถานี Lg. Princesa จากนั้นเดินต่ออีกนิดหน่อยครับ(ผมนั่งมาจาก Praça do Comércio )


อนุสาวรีย์แห่งการค้นพบ เค้าสร้างขึ้นเพื่อยกย่องนักเดินเรือ สมัยก่อนเค้าจะยกย่องคนที่เดินเรือออกไปค้นพบทวีปต่างๆ ช่วงนั้นโปรตุเกสกับสเปนก็ออกแข่งขันกันล่าอานานิคม
และจะเห็นว่าเค้าสร้างไว้ติดทะเล หันหน้าออกทะเลเลย
การเดินทาง : นั่งรถรางสาย 15E มาลงที่ สถานี Mosteiro Jerónimos หรือเดินจาก Belém Tower ได้เลย

ถ้าลองไปค้นข้อมูลดูจะมีบอกเลยว่า รูปปั้นแต่ละคนคือใครบ้าง

เป็นสถานที่เก็บศพของ Vasco da Gama นักเดินเรือชื่อดังชาวโปรตุเกส เขาเป็นคนแรกของยุโรปที่เดินทางไปถึงอินเดีย ทำให้เกิดการเชื่ยมโยงระหว่างเอเชีย กับยุโรปขึ้น
สมัยก่อนเค้าจะยกย่องคนที่เดินเรือออกไปค้นพบทวีปต่างๆ ช่วงนั้นโปรตุเกสกับสเปนก็ออกแข่งขันกันล่าอานานิคม
การเดินทาง : นั่งรถรางสาย 15E มาลงที่ สถานี Mosteiro Jerónimos

ได้รับการจัดให้เป็นมรดก โลกโดยองค์การยูเนสโกพร้อมกับTower of Belém


ร้านทาร์ตไข่โปรตุเกส ชื่อดัง เก่าแก่ และร้านนี้คืออร่อยที่สุด ในบรรดาหลายร้านที่ผมได้ไปลองชิม ที่โปรตุเกส ของทริปนี้เลย ที่ตั้งก็จะอยู่ใกล้ๆ กับ Jerónimos Monastery (ที่เที่ยวด้านบนก่อนหน้า) สามารถเดินมาได้เลย

ปล.รูปนี้ไม่ใช่ ทาร์ตไข่ ของร้านด้านบนนะครับ



อีกหนึ่งจตุรัสที่ห้ามพลาดเลย จะมีรูปปั้นของกษัตริย์ José I ตั้งเด่นอยู่กลางจตุรัสเลย และที่นี่ยังติดแม่น้ำทากัส (Tagus)
การเดินทาง : สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงินมาลงที่สถานี Terreiro do Paço หรือรถรางก็ได้ มาได้หลายสายเลย


วันที่ 3
ก่อนที่คืนนี้เราจะต้องนั่งรถบัสย้ายเมืองไปเมืองปอร์โต้ วันนี้เรามีเวลาทั้งวันในการเที่ยวที่เมืองลิสบอนครับ พากันออกเที่ยวสายๆ เลยวันนี้ เก็บกระเป๋าฝากไว้ที่พัก

สะพานนี้เชื่อมระหว่างฝั่ง Lisbon กับฝั่ง Almada โดยจุดนี้เป็นแม่น้ำชื่อว่าแม่น้ำทากัส Tagus
เมื่อวานขามาเรานั่ง Uber ผ่าน วันนี้เลยตั้งใจมาจุดนี้โดยเฉพาะเลย
การเดินทาง : นั่งรถรางสาย 15E , 18E มาลงที่ สถานี R. Junqueira แล้วเดินต่ออีกนิดหน่อย

ส่วนตัวรู้สึกว่าการใช้ Pocket Wifi ค่อนข้างสะดวกมาก เพราะเชื่อมต่อได้กับหลายเครื่อง


เดินต่อมาจากตรงสะพาน พามาที่เที่ยวอีกที่ ตรงนี้วัยรุ่นน่าจะชอบเลยเป็นที่เที่ยวที่มีร้านคาเฟ่เก๋ๆ มีห้องสมุด ร้านค้า และมุมให้ถ่ายรูปเยอะเลย
การเดินทาง : นั่งรถรางสาย 15E มาลงที่ สถานี Calvário


ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นห้องสมุด แต่พอเข้ามาแล้วมันเป็นร้านขายหนังสือ ที่เก๋มากๆ เลยแอบแวะมาถ่ายรูปซักหน่อยครับ


หลังจากนั้นเราก็กลับไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้กับที่พัก และเรียก Uber ไปส่งที่ท่ารถบัส เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองปอร์โต้ Porto โดยเราจองรถบัสไว้คือ
Flixbus: 18.45 Lisbon – 22.50 Porto จองมาราคา 15.5 ยูโรตกคนละประมาณ 536 บาท
ฝากติดตามติดกับรีวิวเมือง ปอร์โต้ Porto อยากจะบอกว่าเราชอบ ปอร์โต้ มากกว่าลิสบอนซะอีก เพราะอะไรต้องไปติดตามครับ