
ใครรักอากาศเย็นๆ กับบรรยากาศสบายๆ ชอบเที่ยวธรรมชาติแบบไม่หวือหวา ขอบอกเลยว่าเมืองน่านและแพร่คือพิกัดที่ควรไฮไลท์เอาไว้ เพราะสองเมืองนี้เป็นเมืองเล็กที่เรียบง่ายให้ฟีลสบายๆ และเหมาะกับการขับรถเที่ยวแบบเพลินๆ วิธีเดินทางก็ง่าย นั่งเครื่องบินตรงไปลงเมืองน่านเลยจ้า แล้วเช่ารถขับเที่ยวต่อได้ทั้งสองจังหวัดแบบชิลล์ๆ อยากได้ความสะดวกสบายในราคาดีๆ จองทั้งตั๋วเครื่องบินไปน่านทั้งรถเช่าได้ที่เว็บไซต์ Traveloka เลยนะ ตั๋วพร้อม รถพร้อม ก็ออกเดินทางกันได้เลยจ้า ไปดูซิว่าทริปชิลล์ๆ ในสองจังหวัดนี้มีอะไรให้เที่ยวบ้าง ไปโลด!
เคล็ดลับการจองที่พักน่าน
หากใครที่จองตั๋วเครื่องบินไปน่าน แล้วอยากจะแวะพักเที่ยวน่านก่อนซักคืนสองคืน เราจะมาบอกเคล็ดลับสำหรับจองที่พักน่าน ด้วยการเลือกใช้แอพลิเคชั่น Traveloka จองที่พัก ไม่ใช่แค่ที่พักน่าน แต่รวมถึงที่พักอื่นๆ ก็มีให้เลือกจองมากมาย ที่สำคัญคือได้ราคาดี และมีบริการให้เลือกครบครัน ทั้งตั๋วเครื่องบิน รถเช่า รถรับส่งสนามบิน ที่พัก และที่เที่ยว
Road Trip เที่ยวน่าน – แพร่


อำเภอบ่อเกลือ คืออำเภอแรกที่อยากชวนให้ขับรถไปเริ่มต้นทริปกัน ด้วยความที่เป็นอำเภอซึ่งเต็มไปด้วยที่เที่ยวน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบ่อเกลือสินเธาว์บนภูเขาซึ่งแทบจะเป็นที่เดียวในโลกซึ่งยังเหลือให้ดู รวมถึงยังเป็นที่ตั้งของโครงการหลวงภูฟ้า อุทยานแห่งชาติขุนน่าน และไฮไลท์สำหรับสายชิลล์อย่างหมู่บ้านสะปัน หมู่บ้านในอ้อมกอดขุนเขา ใครชอบเสพความสโลว์ไลฟ์จะมานอนซักคืนก็ได้นะ รับรองว่าฟินแน่นอน


ช่วงเช้าๆ นะ อยากชวนให้ขับรถมาที่จุดชมวิว 1715 ซึ่งเป็นไฮไลท์หนึ่งของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา สำหรับคนที่มองหาจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าแจ่มๆ ของเมืองน่าน ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่อากาศเป็นใจอาจจะได้เห็นวิวทะเลหมอกแบบอลังการด้วยนะ คุ้มจ้า แวะเลย


จากจุดชมวิวที่ชิลล์มาก ก็อยากชวนให้ขับรถมาเช็คอินแลนด์มาร์คหลักอีกแห่งของน่านอย่างอำเภอปัว อำเภอสุดสโลว์ไลฟ์ซึ่งเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวสารพัดเฉด และเมื่อมาถึงปัว วัดภูเก็ตคือพิกัดที่พลาดไม่ได้ เพราะนอกจากจะได้ไหว้พระ วัดนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่ชิลล์มากอีกหนึ่งแห่งของอำเภอนี้ สำหรับสายคาเฟ่ ด้านหลังวัดมีร้านนั่งสบายอย่างฮักนากาแฟให้ไปแวะพักแข้งขากันได้อีกด้วยนะ สบายเว่อร์


อีกร้านกาแฟน่าแวะในอำเภอปัวก็คือร้านกาแฟไทลื้อ ซึ่งเป็นสวรรค์ของคนรักผ้าทอมือพื้นเมือง เพราะด้านหน้าร้านนี้เปิดเป็นร้านขายเสื้อผ้าที่ชื่อว่าลำดวนผ้าทอ ซึ่งใช้ผ้าทอไทลื้อที่ถือเป็นผลิตภัณฑ์ประจำชุมชนเลยละ แวะช้อปแล้วไปเดินแชะรูปด้านในก็เริ่ดนะ นับว่าเป็นร้านกาแฟกลางทุ่งนาที่บรรยากาศดีและน่าไปใช้เวลาชิลล์ๆ อีกที่ของเมืองปัว


จากปัว เรามุ่งหน้ากลับเข้าสู่ตัวเมืองเพื่อแวะเช็คอินรัวๆ กับสองวัดสวยซึ่งเป็นแลนด์มาร์คของเมืองน่าน เริ่มกันที่วัดพระธาตุแช่แห้ง ซึ่งถือว่าเป็นวัดและองค์พระธาตุคู่เมืองน่านที่สันนิษฐานว่ามีอายุเก่าแก่ถึงราวๆ 600 ปี หลายคนเชื่อว่าการได้มากราบนมัสการองค์พระธาตุแห่งนี้จะส่งผลให้ชีวิตมีความสุขปราศจากโรคภัย ได้อานิสงส์ดีๆ แล้วยังมีศิลปกรรมล้านนาสวยๆ ให้ชมกันอีกด้วยนะ อย่าพลาดเชียวเน้อ


วัดภูมินทร์คืออีกวัดที่ต้องแวะเช็คอินแบบมองข้ามไปไม่ได้ เพราะนี่คือซิกเนเจอร์สำคัญที่บอกให้เรารู้กันว่ามาถึงเมืองน่านแล้วแน่ๆ กับการมากราบพระพร้อมชมจิตกรรมฝาผนังกระซิบรักบรรลือโลกของปู่ม่าน – ย่าม่าน ที่แสนจะน่ารักน่าเอ็นดู มาเมืองน่านต้องมีรูปคู่กับปู่ – ย่าเค้านะจ๊ะ ไม่งั้นก็เหมือนว่ามาไม่ถึงเลยเชียว


อีกพิกัดที่พลาดไม่ได้ก็คือการต้องแวะเช็คอินกันในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเมืองน่าน ที่ด้านในมีงาช้างดำซึ่งถือเป็นของล้ำค่าคู่เมืองนี้ แถมยังมีโบราณวัตถุเก่าแก่อีกมากมาย และที่พลาดไม่ได้ก็คือการแวะถ่ายรูปกับอุโมงค์ต้นลีลาวดี ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์คู่กับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ที่ใครมาก็ต้องแชะเอาไว้หน่อยละ คิดท่าโพสต์ให้เริ่ดเข้าไว้นะ รับรองออกมาสวยชัวร์



จากเมืองน่าน เราขับรถแวะผ่านเข้าสู่เมืองแพร่ เมืองเล็กสุดน่ารักที่ไม่พลุกพล่านและยังคงความต๊ะต่อนยอนไว้ได้อย่างเต็มที่ พิกัดแรกที่เราแวะในเมืองนี้ก็คือที่ถ้ำผานางคอย ณ อำเภอร้องกวาง ถ้ำสวยในภูเขาหินปูนที่มีหินงอกหินย้อยสวยๆ ให้ดูถึง 13 จุดไฮไลท์ โดยมีจุดที่พลาดไม่ได้คือบริเวณหินนางคอย ที่มาพร้อมกับตำนานอันแสนเศร้าที่เล่าสืบต่อกันมา ดูแค่ถ้ำก็สวยแล้วนะ ยิ่งถ้าได้รู้ตำนานด้วยยิ่งเดินดูสนุกมาก บอกเลย


ขับรถต่อมาบนเส้นทางมุ่งหน้าสู่อำเภอเมืองแพร่ก็มีอีกหนึ่งพิกัดที่ต้องแวะอย่างแพะเมืองผี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยืนหนึ่งคู่จังหวัดนี้มาเนิ่นนาน ด้วยสภาพธรรมชาติทางธรณีวิทยาที่แปลกตาเป็นหน้าผาและเสาดินรูปร่างประหลาดมากมาย เป็นอีกหนึ่งโลเกชั่นที่ท้าทายคอสตูมและการโพสต์ท่าเก๋ๆ อย่างแท้จริง ใครโพสต์ดีบอกเลยว่าตรงนี้คือชนะเลิศ!


อีกหนึ่งพิกัดที่พลาดไม่ได้ ก็คือการแวะไปนมัสการองค์พระธาตุที่วัดพระธาตุช่อแฮ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นวัดประจำปีเกิดของคนที่เกิดในปีขาล และเป็นวัดสำคัญซึ่งเชื่อกันว่าด้านในเป็นที่ประดิษฐานองค์พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าเอาไว้ ตัววัดสวยด้วยศิลปะสไตล์ล้านนาเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี ว่ากันว่ามาเมืองแพร่แล้วไม่ได้มากราบนมัสการองค์พระธาตุที่วัดนี้ ก็เหมือนยังมาไม่ถึงที่นี่จริงๆ เน้อ


ออกจากตัวเมืองแพร่มาประมาณ 25 กิโลเมตร ก็จะเจอกับหมู่บ้านเล็กๆ ในอ้อมกอดธรรมชาติที่ชื่อบ้านนาคูหา ซึ่งว่ากันว่าที่นี่เป็น 1 ใน 7 พิกัดแหล่งโอโซนชั้นดีของประเทศไทย นอกจากอากาศดีและธรรมชาติสวยสบายตาแล้ว วัดนาคูหายังเป็นอีกหนึ่งพิกัดน่าแวะของที่นี่ ตัววัดอยู่กลางทุ่งนาแวดล้อมด้วยขุนเขา มีสะพานไม้ไผ่ทอดยาวข้ามทุ่งผ่านไปยังองค์พระเจ้าทันใจ ซึ่งเป็นองค์พระขนาดใหญ่กลางทุ่งนา แวะมาไหว้พระที่นี่มีรูปสวยๆ กลับไปด้วยอย่างแน่นอน


เลยจากตัวเมืองมาถึงอำเภอลองของจังหวัดแพร่ จะมีพิกัดเก๋ๆ อีกหนึ่งแห่งซ่อนตัวอยู่ สำหรับใครที่มองหาโลเกชั่นถ่ายรูปชิคๆ แปลกตา บอกเลยว่าสถานีรถไฟบ้านปินไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะนี่คือสถานีรถไฟแห่งเดียวของเมืองไทยที่สร้างในสไตล์บาวาเรียนผสานกับเรือนปั้นหยา ไม่ได้ใหญ่โตแต่น่ารักโดนใจนะ แถมยังไม่ได้มีนักท่องเที่ยวหนาตาวุ่นวาย เชื่อว่าจะประทับใจกันแน่นอน


พิกัดปิดท้ายในทริปน่าน – แพร่ คราวนี้ เราขอไปแฮปปี้กับบรรยากาศสุดน่ารักของกาดกองเก่าและกาดพระนอน สองถนนคนเดินในเมืองแพร่ที่อยู่ใกล้กัน ตั้งอยู่ในย่านแสนคลาสสิกของบ้านเรือนไม้แบบเก่าสไตล์แพร่ ความน่ารักของถนนคนเดินที่นี่คือการเป็นพิกัดที่อัดแน่นไปด้วยของกินของใช้ท้องถิ่นแบบจัดเต็ม บรรยากาศก็น่ารักเดินสบาย แถมมีร้านเก๋ๆ ให้นั่งชิลล์กันอยู่หลายร้านเหมือนกันนะ ที่นี่มีทุกเย็นวันเสาร์จ้า ถ้าตรงกับช่วงที่คุณมาก็แนะนำให้ปักหมุดเลย
สองเมืองเล็กสุดน่ารักที่เราเอามาฝากกันนี้ น่าจะเป็นพิกัดที่คนรักความสโลว์ไลฟ์ต้องหลงเลิฟแน่ๆ เพราะยังเต็มไปด้วยวิถีชีวิตแบบเนิบช้า พื้นที่เกษตรกรรมสีเขียวสบายตา ภูเขา ป่าไม้ ในขณะที่ความสบายก็มีให้แบบครบๆ จ้า ใครมองหาทริปพักใจอยู่ ลองเอาไว้พิจารณานะ ยิ่งขับรถเที่ยวเองก็จะได้เที่ยวแบบไม่ต้องปะปนกับใคร ไม่ต้องเสี่ยงกับโรคภัยด้วยจ้า ลองดูน้า ช่วงนี้ยังหนาวอยู่ ถือว่าดี!